ใคร ๆ
ก็รู้กันทั้งโลกว่า สุนัขนั้นเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในโลก
อันนี้เป็นเรื่องที่หนูไม่ได้พูดเองนะคะ แม่หนูก็พูดบ่อย ๆ ว่า "ซินดี้"
เธอนี่มันเป็นหมาหรือเป็นคนกันแน่ เธอน่ารักมาก ไม่เถียงไม่ถามอะไรเลย
ดีกว่าคนเยอะเลย " "เธอเป็นเพื่อนทีดีที่สุดจริง ๆ คนควรเรียนรู้จากหมา
มากกว่าหมาเรียนรู้จากคน"
แม่บอกว่าหมาฉลาดกว่าคนในเรื่องการปรับตัว คงจะจริงเพราะตอนนี้หนูสามารถอั้นฉี่ ได้นานเท่า ๆ กันคน (บางคน) เพราะหนูถูกตีบ่อย ๆ หากหนูฉี่ อึไม่เป็นเวลา หนูสามารถส่งสัญญาณทางร่างกายได้ว่าเมื่อไหร่ หนูอยากไปฉี่ หรือหนูหิว อยากไปฉี่หนูจะครางหงิง ๆ ทำตาละห้อย แล้ววิ่งไปที่ประตู (แต่ไม่กล้าออกไปข้างนอกเอง เพราะจะถูกทำโทษหนักเป็นสองเท่า) หนูก็จะวิ่งกลับไป กลับมาระหว่างประตูกับโต๊ะทำงานของแม่ หรือที่แม่นั่งเม้าท์กับเพื่อน เป็นอันรู้กันว่าหนูอยากออกไปทำธุระส่วนตัว..เวลาหนูหิวก็แค่เลียปากแผล่บ ๆ ประมาณ10 ที ทำตาโต กระดิกหางความเร็วปานกลาง มองไปที่อาหาร (ที่คนกำลังหม่ำโดยไม่สนใจหมา) หรือหากจะทำให้แม่อับอายขายหน้าก็ทำได้ คือวิ่งไปเกาะขาคนที่กำลงัทานอาหารอยู่ เพิ่มความเร็วของการสั่นที่หางเป็นสองเท่า แม่ก็จะรีบอุ้มหนูไปทานข้าว (หนูทานข้าวกับแม่ทุกมื้อ ที่ร้านอาหารที่เขาอนุญาตให้แม่พาหนูไปได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นร้านของเพื่อนแม่)
หนูแอบได้ยิน (จากคน) มาว่าความเฉลียวฉลาดหรือที่เรียกว่าไอคิวของสุนัขหรือนั้นกล่าวกันว่ามีสติปัญญาเทียบเท่ากับเด็กอายุกว่าสิบขวบเลยทีเดียว
หนูว่ามันไม่น่าใช่นะคะ หนูไม่ค่อยแน่ใจค่ะ…หนูไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทเลยค่ะ นอกจาก รถถัง และเจเจ อยู่บ้านเดียวกัน
เราสนิทกันตอนเด็ก ๆ เจเจ เป็นพันธ์บางแก้ว ฉลาด
เรียบร้อย แต่ขี้กลัว ส่วนรถถัง บูล เทอร์เรีย บ้าพลัง หายใจเสียงดัง ดิ้นแรง ๆ
วิ่งเร็วมาก เหมือนจะงับทุกอย่าง พี่ยุนาเคยพาไปเดินทะเล แต่ตอนนี้ออกแนว
รถถังเป็นฝ่ายลากพี่ยุนาไปทะเลมากกว่า..แต่ก็ยังไม่เคยกัดใครเลยค่ะ
หนูแยกมาอยู่กับแม่เป็นส่วนใหญ่
(เรียกว่าตลอดเวลาดีกว่า) ตั้งแต่แม่เริ่มป่วยด้วยโรคตาปิด หนูไปเดินทะเลกับแม่
ทานข้าวกับแม่ ข้ามถนนกับแม่ โดยหนูจะถูกจูงให้เดินข้างแม่
แต่เดินทางด้านที่เสี่ยงอันตรายมากกว่า!! จริง ๆ นะคะ เพราะแม่บอกว่า
คนขับรถเขาจะได้สงสารเป็นสองเท่า คือสงสารทั้งหมาและคนตาไม่ดี ซึ่งก็ได้ผล หนูได้เรียนรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเดิน
เมื่อไหร่ควรหยุด เมื่อไหร่ควรวิ่ง หนูเดินข้ามถนนกับแม่ทุกวันค่ะ บ้านเราอยู่ห่างจากทะเลแค่
100 เมตร หนูชอบไปวิ่งเล่นที่ชายหาด แต่ตอนนี้
ตำรวจเทศกิจเขาออกมาเตือน ๆ ว่า ห้ามนำหมามาเดินบนชายหาด
ตัวเล็กตัวน้อยอะไรก็ไม่ได้ ไม่เห่า ไม่อึ ไม่ฉี่ ก็ไม่มีสิทธิ หนูล่ะเศร้าเลย…แต่แม่ก็แอบพาหนูไปเดินเล่นตอนเช้า ๆ ยังไม่มีใครมาเดินมากนัก
ตอนนี้แม่หนูมองได้ทั้งสองตาเหมือนเดิมแล้ว
หนูก็ยังคงมีหน้าที่พาแม่ข้ามถนนเหมือนเดิม…
หนูมีเพื่อนชื่อซาร่า
แม่เขาเป็นเพื่อนแม่หนู เราเจอกันบ่อย ๆ บ้านเราอยู่ใกล้กัน
ซาร่ากับแม่ก็มักจะข้ามถนนด้วยกันเสมอ มีอยู่วันหนึ่ง
วันนั้นซาร่าช้ามถนนเองโดยไม่รอแม่ แต่ข้ามไปไม่ถึงอีกฝั่งหนึ่ง เพราะเธอตกใจ
มีรถวิ่งมาเร็วมาก เสียงเบรคดังลั่น ซาร่าร้องกริ๊ด แม่ของซาร่ายิ่งร้องเสียงดังยิ่งกว่า
เธอวิ่งไปกอดซาร่าที่ยืนตัวสั่นอยู่กลางถนน และพาข้ามกลับมาที่เดิม หนูยืนมองอยู่
หัวใจหนูเต้นโครมคราม มันน่าตกใจมาก รถเกือบชนซาร่าแน่ะ
“เห็นไหมซินดี้ ขืนทะเล่อทะล่า ไม่ดูตาม้าตาเรือ วันหนึ่งเธอจะเป็นผัก
อยู่กลางถนน” ตั้งแต่นั้นมาหนูยิ่งต้องระวังอย่างหนัก
เสียงน้าฉายคนข้างบ้านบอกว่า “ซินดี้
เป็นหมายังเก่งกว่าอีก ข้ามถนนเองได้” แหม..น้าฉายก้อ..มันต่างกันนะ หนูเป็นหมาไม่มีสูจิบัตร
ส่วนซาร่าเธออายุแค่ 9 ขวบ เอง
และเธอไม่มีแม่ให้พาข้ามถนนทุกวันเหมือนหนู
แม่หนูบอกว่า
”
เป็นอะไรซินดี้ ตื่นมาทำไม เธอเห็นอะไรเหรอ เธอทำให้แม่กลัวนะรู้ไหม
ไปนอนซะ ..” แค่นี้หนูก็ยิ้มได้แล้ว ..จริงค่ะหมายิ้มได้
(แม่หนูใช้เวลาเกือบสามเดือนกว่าจะแยกออกว่าหนูกำลังยิ้มหรือกำลังหิวน้ำ
เวลาหนูยิ้มทีไร แม่วิ่งไปตักน้ำให้หนูทุกที เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว แต่ตรงกันข้าม..บางทีหนูหิวน้ำมากเลย
แม่ลืมให้น้ำหนูเป็นวัน ๆ หนูฉีกปากลิ้นห้อย แม่หันมามองทีไร ก็ถามแต่ว่า “ยิ้มอะไรจ๊ะ คนสวย..” เฮ้อ…ได้โปรดเถอะ พระเจ้า..
ตอนนี้หนูมีปัญหาค่ะ
คือว่าหนูเป็นหมา แต่เวลานอนหลับ หนูก็ฝันได้เหมือนคนเหมือนกัน บางทีหนูก็ตกใจตื่นกลางคืนเพราะหนูฝันว่าหนูหาแม่ไม่เจอ
แม่ไปไหนไม่รู้ พอหนูสะดุ้งตื่นก็เห็นแม่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง หนูดีใจมากเลย
หนูตะกุยเขี่ยตัวแม่
“รู้ไหมซินดี้..เธอเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ที่เกิดขึ้นในชีวิตฉัน..” หนูแทบตัวลอย
ความน่ารักและนิสัยของสนัขแต่ละตัวนั้นก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์
ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะที่ได้มาจากปู่ย่าตาทวดที่สืบทอดกันมา
บางสายพันธุ์ก็อาจสอนให้ทำอะไรได้หลายอย่างหรือยากง่ายแตกต่างกันไป
ซึ่งก็เป็นความสามารถเฉพาะตัวกันไป
อย่างเช่นเจ้าโกลเดนนี่แทบไม่ต้องสอนก็วิ่งไปเก็บของมาให้เจ้าของได้แล้ว
บางตัวก็ดื้อแสนดื้อกันจัง..ก็เพราะสัญชาติญาณสัตว์ป่าของเค้านั่นเอง ส่วนหนู..แม่บอกว่า
ขอบคุณค่ะที่คลิกเข้ามาอ่านเรื่องของหนู..การจัดอับดับไอคิวสุนัข ข้างล่างนี้ หนูไม่ได้โม้เองนะคะ บังเอิญหนูอยู่อันดับที่สอง..แม่หนูยิ้มทั้งวันค่ะ บอกว่า..“แหม..มิเสียแรงที่อุตส่าห์มีหมากับเค้านะเนี๊ยะ “
หนูชื่อSindy ค่ะ
1 comment:
แม่คิดถึงซินดี้เสมอนะลูก
Post a Comment