2014-11-19

ว่าด้วยเรื่อง โซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุค

โซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุค..จะว่าไปก็มีอะไรแปลกๆ ถี่ๆ เยอะๆ
เช่น
๑.วันดีคืนดี คนที่แอดขอเราเป็นเพื่อนก็ส่งข้อความมาบอกว่า ถ้าไม่มีปฏิสัมพันธ์เช่น ไปคลิกไลค์ ไปคอมเม้นต์ ในเฟสเขาจะขอลบเราออกจากเพื่อนนี่แสดงว่าอยากได้ไลค์ ได้คอมเม้นต์อยากได้จำนวนเฟรนด์ ไว้ประดับบารมี
แต่พอไปดูเนื้อหา หรือสิ่งที่นำเสนอก็ไม่รู้จะมีปฏิสัมพันธ์ด้วยได้อย่างไร

๒.บางเพจแทบทุกโพสต์มีแต่คำด่า ผรุสวาท ด่ารถติด ด่ารถที่นั่ง ด่ายาม ด่าเพื่อนร่วมงาน ด่ากาแฟ ด่าอาหารกลางวัน ด่าส้วมด่าแม่บ้านออฟฟิศ ด่ารถติดขากลับด่าแม่ค้าแกงถุง ด่าขี้เกียจล้างจานด่าน้ำไม่ไหล ด่าแอร์ไม่เย็น

ด่าคนรักไม่ทำการบ้าน(สงสัยว่าเป็นนักศึกษา)ฯลฯ

๓.ขยันเมนชั่นบอกรักกับคนรักบนสเตตัส สวีท หวานกันสองคน ส่งไป-ส่งกลับมาเดี๋ยวก็งอนกัน เดี๋ยวก็นัดกันไปจู๋จี๋เป็นนัยๆจนเป็นเหตุให้สงสัย ว่ากล่องข้อความหรือไลน์ส่วนตัวเขา(และเธอ)เสีย ล่ะกระมัง..และทำให้คิดไปไม่ได้ ว่า 

ถ้าคนแบบนี้เขียนติดหน้าบ้านตรงประตูรั้ว ว่า "คืนนี้เค้ารอนะตะเอง" รปภ. กับซาเล้งซื้อของเก่าคงจะงงไม่น้อย

๔.คิดอะไรขึ้นมาได้ก็โพสต์ไว้กันลืมโดยลืมไปว่า "โซเชียลมีเดีย" นั้น"คนอื่น" จะเห็น จะได้อ่าน "ต่อๆ กัน"นับตั้งแต่เพื่อน เพื่อนของเพื่อน เพื่อนของเพื่อนของเพื่อน ของเพื่อนของเพื่อนๆๆๆๆๆ ตามที่พี่มาร์ค ซัค' กับทีมงาน "ตั้งค่า" ไว้


๕.อัลบั้มภาพ...ศิลปินนักถ่ายภาพรุ่นครูท่านหนึ่ง ได้กล่าวไว้ในหนังสือถ่ายภาพเล่มหนึ่งว่า "กล้องดิจิตัลทำให้เกิดความมักง่าย หันหน้ากล้อง-เปิดหน้าเลนส์ได้เห็นอะไรสวยไปหมด ถ่ายตะบัน..."

ท่านกล่าวไว้ตั้งแต่สมาร์ทโฟนยังไม่เกิดและกล้องสมาร์ทโฟนยังไม่มีจำนวนพิกเซลที่มากมายขนาดนี้ หากวันนี้มีใครไปสัมภาษณ์ท่านคงไร้วาจาที่จะกล่าว

๖.ก้อปปี้ข้อความก้อปปี้ภาพคนอื่นมาอวดโดยไม่ให้เครดิต พี่มาร์ค ซัค' คงจะคาดการได้ว่าจะมีเรื่องนี้จึงตั้งค่าให้ "แชร์-แบ่งปัน" ได้แต่ขออภัย การแชร์ที่แสนสะดวกนั้นมันมีเครดิตคนเขียน คนถ่ายภาพมาด้วย ไม่เอาล่ะ ไม่เท่ ไม่เก่ง ก้อปปี้มาแปะเอาดีกว่าดูดี ดูฉลาด ดูทรงภูมิขึ้นตั้งแยะทำเสร็จก็มานั่งลุ้น ว่าจะได้กี่ไลค์ กี่แชร์ กี่คอมเม้นต์ สำหรับของที่ "จิ๊ก" เขามาที่ร้ายกว่านั้นก็มี ที่ตัดเครดิตลายน้ำ ในภาพที่เจ้าของเขาใส่ไว้ออกเสียด้วย กรรม!!


๗.ขาโหด โพสต์ศพ โพสต์แผลโพสต์สัตว์บาดเจ็บ เด็กถูกทำร้ายโพสต์ควายถูกเชือด ฯลฯ

ส่วนหนึ่งอ้างว่าเมตตาสัตว์ ส่วนหนึ่งอ้างว่าขอความช่วยเหลือ ส่วนหนึ่งอ้างว่าสงสารปิ่มว่าจะขาดใจ ฯลฯ
ส่วนตัวเคยถาม ว่า..ถามจริงๆ เถอะ คนโพสต์เคยช่วยเองบ้างไหม?
เจ้าตัวตอบมาแบบหงุดหงิด ว่าแค่ช่วยโพสต์ช่วยแชร์ก็ได้บุญแล้ว!!

๘.นักการเมืองหน้าคีย์บอร์ด นักเคลื่อนไหวหน้าจอ คอมเมนเตเตอร์ขาใหญ่ วิจารณ์ทุกประเด็น วิจารณ์ทุกสถานการณ์

กัด-จิก-ด่า-สำราก-ประชดประเทียด ฯลฯ
แต่ถ้ารู้จักตัวจริง จะพบว่าแค่จานชามในซิงค์ก็บูดเน่า ผ้าห่มไม่เคยพับ ทะเลาะกับผัว เตะเมีย โกงเงินลูกน้อง หนักๆ เข้าถึงขั้นคบชู้ ไม่ดูแลลูกหรือแย่งผัวแย่งเมียชาวบ้าน ฯลฯ ไม่ต้องถึงขั้นบริหารบ้านเมืองดอก แค่เป็นนิติบุคคลหมู่บ้านยังโกง หรือหลบเงียบ ไม่ยอมจ่ายค่าขยะ-ค่ายาม ฯลฯ
๙.เซลฟี่ โอ๊ะโอ!! อันนี้ทักไม่ได้ ส่วนใหญ่นักเซลฟี่จะขี้น้อยใจ ทั้งนี้ สังเกตได้ ว่านักเซลฟี่นั้น ไม่ค่อยมีใครถ่ายภาพให้ ประดาท่านจึงต้องถ่ายภาพตัวเอง แค่นั้นแหละ

๑๐.นักแทค(tag)แห่งชาติ แทคตะบัน แทคทีละเป็น ๒๐-๑๐๐ เป็นสมาชิกสมาคมนักยัดเยียดแห่งชาติ ตัวพ่อ-ตัวแม่

คนเหล่านี้ไม่เคยรู้เลย ว่าถ้าตนเองโพสต์สเตตัส มันจะไปขึ้นหน้าฟีดไทม์ไลน์ แล้วเพื่อนของตนจะเห็นอยู่แล้ว
และถ้ามันน่าสนใจ ใครๆ เขาจะแวะไปดูเอง

๑๑.เจ้าพ่อ-เจ้าแม่-เจ้าลูก นัก invite เชิญให้เล่นเกมส์ เชิญให้ไปคลิกหน้าเพจที่สร้างขึ้น เชิญให้ไปร่วมลงชื่อรณรงค์

ตลอดจน "ลากไปเข้ากลุ่ม" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "กลุ่มขายตรง"ประเภทสร้างออร่า คอลลาเจน ขยายขนาดเข่า จมูกฟู หูฟิต ฯลฯ
..........พอล่ะเนอะ............................

No comments: