2013-11-18

สัญญาณอันตราย..แดง..ทุกๆ..แดง..เตรียมพร้อมปราบกบฏ

สัญญาณอันตราย..แดง..ทุกๆ..แดง..เตรียมพร้อมปราบกบฏ
บทความ : แนวทางปราบกบฏ

สัญญาณอันตราย..แดง..ทุกๆ..แดง..เตรียมพร้อมปราบกบฏ

เป้าหมายในการโค้นล้มพวกเผด็จการของ ปชช ปกติที่กล่าวถึงมี 2 แนวทาง

1....แนวทางปฏิรูป.คือการต่อสู้เรียกร้องโดยสันติวิธี..ค่อยเป็นค่อยไป
โดยหวังว่าเผด็จการจะยอมคืนอำนาจมาให้ประชาชน
แต่โดยทั่วไปแล้วปชช จะถูกปรามปรามเข่นฆ่าเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากมาย
ในบางครั้งก็อาจเป็นไปไม่ได้...อาจต้องรอถึงชั่วอายุคน...นับเป็น 100 ปี....

2....แนวทางปฏิวัติ....คือการที่ ปชช รวมตัวกันใช้กำลังเข้าเปลี่ยนแปลง
ระบอบกับอำนาจเผด็จการ..จนนำไปสู่สงครามกลางเมือง..โดยมีการ
สูญเสียชีวิตไพร่พลมากมาย...ฝ่ายไหนที่มีกำลัง มวลชน และอาวุธที่
เหนือกว่า...จะเป็นฝ่ายชนะ....ส่วนใหญ่จะใช้เวลาเปลี่ยนแปลงในระยะสั้น
พวกฮาร์ดคอร์ที่ต้องการเห็นผลโดยเร็วจะนิยมใช้กัน..ในแต่ละประเทศ....
และ..
3....แนวทางปราบกบฏที่กำลังจะเกิดขึ้น........

ทำไมถึงต้องเรียกว่า..แนวทางปราบกบฏ....ก็เพราะว่าอำนาจรัฐฯได้อยู่ในมือของรัฐบาล
ปชช แล้ว..แต่จะมีการช่วงชิงจากกลุ่มโจรที่คิดจะยึดอำนาจ...จึงเรียกพวกนั้นว่า..." กบฏ "
แต่ในทางปฏิบัติ...อำนาจจริงหรืออำนาจแฝง...กลับอยู่ในมือของโจรมาเฟียผู้ควบคุมประเทศนี้มาช้านาน....พวกโจรจึงพยายามจะช่วงชิงอำนาจรัฐฯมาอยู่ในมือของพวกเขาทั้งหมด. แต่ติดอยู่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศไม่ยอม...จึงคานกันอยู่....แต่ทางฝ่ายกองโจรมีอาวุธร้ายที่สำคัญอยู่ในมือก็คือ.ตุลาการ..และกองทัพทหาร...


และอาวุธเหล่านี้ได้ถูกพัฒนามาเป็นเครื่องมือในการทำรัฐประหารสมัยใหม่ก็คือตุลาการรัฐประหาร..
จากในอดีตได้นำมาใช้หลายครั้งแล้ว....จนดูว่าไม่ศ้กดิ์สิทธิ์อีกต่อไป...เพราะ ปชช จับได้ไล่ทัน
และเมื่อพวกโจรได้พยายามมาจนถึงที่สุดไม่ประสบผลสำเร็จจนถึงทางตันก็จะนำกำลังทหารโจร..ออกมายึดอำนาจรัฐฯอีกครั้ง..อย่างในอดีตที่ผ่านมาและในครั้งนี้แหละ...เราจะต้องให้มันเป็น...โจรก่อกบฏ.
รัฐบาลจะร่วมมือกับปชช ทั้งประเทศจะเข้าทำการกวาดล้างโจรกบฏเหล่านี้ให้สิ้นซาก
การกบฏ...เพื่อโค้นล้มอำนาจระบอบ ปชต ของรัฐบาลประชาชนโดยตรงถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงมีโทษประหารชีวิต...และถูกยึดทรัพย์สิน......

ในขณะเดียวกันประเทศนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลมากมายเพียงแค่เมืองหลวงถูกยึดครองเป็นพื้นที่
ขนาดเล็กมากไม่มีผลต่อรัฐบาลโดยรวมทั้งประเทศ รัฐบาลยังมีพื้นที่ครอบครองทั้งเหนือและอีสาน
ทั้งหมดกว่าค่อนประเทศโดยมี ปชช เป็นฐานรองรับ จึงยังคงความเป็นรัฐบาลอยู่ได้ตามหลักสากล
ทุกประการโดยมีต่างชาติและ UN ให้การสบับสนุนเหมือนเดิม...และยังมีอาวุธสำคัญคือ พรบ
ความมั่นคง ประกาศกฏอัยการศึกเข้าควบคุมกลไกรัฐฯได้ทุกหน่วยงานทั่วทั้งประเทศ สามารถออก
คำสั่งระดมพลข้าราชการ ตำรวจ ทหารประจำการและกองหนุนรวมไปถึงอาสาสมัคร ปชช คนเสื้อแดง
ทั้งหมดเข้าร่วมปราบปรามกบฏ...และเป็นโอกาสของพวกฮาร์ดคอร์ที่จะเข้าร่วมในการปราบกบฏพร้อม
สรรพาวุธ...ต่อสู้กับกบฏได้....ถูกต้องตามหลักสากลทุกประการ...

จึงขอเรียกแนวทางที่ 3 นี้ว่า...แนวทางปราบกบฏ...ไม่ใช่แนวทางปฏิวัติแน่นอน

จึงขอให้แดงทุกแดงทั้งประเทศ....จงเตรียมตัวไว้ให้พร้อมเมื่อถึงเวลาอันวิกฤติ....ถึงอย่างไร
พวกมันหนีไม่พ้นที่จะทำการกบฏยึดอำนาจรัฐฯ....ตามสันดานโจรชั่วที่ทำกันมาตลอด

สรุป : รัฐบาลจะอยู่ได้ก็เพราะ ปชช เป็นฐานกำลังค้ำจุนเท่านั้น...และในขณะเดียวกันรัฐบาล
ก็ต้องไม่ทิ้ง ปชช เช่นกัน...การหนีออกไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น....จะเป็นความโง่เขลาเบาปัญญา
และเป็นวิสัยของคนขี้ขลาดพึงกระทำกัน..เมื่อ ปชช ไม่ทิ้งรัฐฯ..แล้วรัฐฯจะทิ้ง ปชช ได้อย่างไร.

จึงขอฝากเรียนถามไปถึง...ข้าราชการ...ตำรวจ...และทหารแตงโม...ทั่วทั้งประเทศว่า..เมื่อมีการ
กบฏเกิดขึ้น..ท่านทั้งหลาย..จะฟัง..คำสั่งของพวกโจรกบฏที่ผิดกฏหมาย..หรือจะฟังคำสั่งอัน
ถูกต้องและชอบธรรมของรัฐบาล..

แน่นอนที่สุด..ตามธรรมชาติของมนุษย์จะยึดถือความถูกต้องชอบธรรมเป็นหลัก..และปฏิเสธอำนาจโจรนอกระบบ..และเชื่อได้ว่า..พวกโจรกบฏจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้..และคนชั่วจะถูกปราบปรามราบคาบสิ้นไปจากผืนแผ่นดินไทย/


------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เสื้อแดง/เพื่อไทย ต้องรักษาอำนาจรัฐไว้ก่อน พิชิตศึกเร็วไม่ได้ก็ต้องยืดเยื้อ : ลูกชาวนาไทย

เรื่องวันที่ 20 พ.ย. 56 นี่ผมขี้เกียจคิดมากครับ หากกล้าหน้าด้าน จะยุบ สส. 310 คน ล้มรัฐบาล เราในฐานะประชาชน ก็จะต้องสู้ต่อไป ยังไงมันก็ไม่ใช่จุดจบของสงคราม แต่มันคือ เริ่มต้น สงครามรอบใหม่ และทีนี้จะรุนแรงจนในที่สุดชนชั้นนำน้่นแหละจะอยู่ไม่ได้

สังคมเมื่อถึงทางตัน ประชาชน "จะผ่าทางตันแบบที่ทุกชาติเคยเป็นมา" คนที่ปิดทางเช่น กัลดาฟี่ ก็ตายไปแล้ว ซีเรียก็เกิดสงครามกลางเมือง บ้านเมืองพังพินาศ คนตายเป็นเบือ สุดท้ายตระกูลประธานาธิบดีแม้จะได้เปรียบในยกแรก แต่ประเทศไม่มีทางสงบพัฒนาต่อไปไม่ได้ สุดท้ายก็เกิดจลาจลอีกรอบ ตระกูลประธานาธิบดีคงโดนกำจัดหมดสิ้นแบบกัลดาฟี่

ประเทศไทยก็เหมือนกัน หากคิดจะใช้ "รัฐบาลแห่งชาติ นายกฯม.7" ไม่มีเลือกตั้งสุดท้ายก็ต้องมีการผ่าทางตันในที่สุด เพราะบ้านเมืองจะเข้าสู่วิกฤติอีกรอบทันที

ผมจึงไม่กังวล เพราะผมไม่มีอะไรต้องเสียมาก แต่ชนชั้นนำหากคิดจะสร้าง Chaos สร้างความไร้ระเบียบ ขึ้นในสังคม ก็ไม่มีทางควบคุมผลของ "ความไร้ระเบียบ" ได้หรอก

รัฐบาลแห่งชาติไม่มีทางออกหรอก

ก็ลองเดินหน้าเข้าชนกันดู คนส่วนใหญ่ กับชนชั้นนำกลุ่มน้อย ใครจะชนะสงครามในที่สุด
แต่มันไม่ใช่ "จุดจบสงครามแน่" แต่มันเป็นการประกาศสงครามรอบใหม่

มีคนกังวลว่า หากผลออกมาว่า ตลก. บอก แก้ สว ไม่ได้เพราะเสียบบัตรแทนกันแต่ไม่ยุบพรรค เราจะทำอย่างไร

หากเป็นแบบนี้ เราก็สู้ต่อไป เราก็แก้ไขใหม่ ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร

ยังไงรัฐธรรมนูญมันก็จะต้องถูกเสียงส่วนใหญ่แก้ไขใน 10 ปีนี้แหละ การต่อต้านก็ทำได้แต่การชะลอเวลา และยิ่งทำอย่างนี้ พรรคเพื่อไทยก็จะยิ่งชนะเลือกตั้งมากขึ้น ตอนนี้ก็แค่รักษาอำนาจรัฐไว้ก่อน ค่อยๆ ลดอิทธิพลของฝ่ายตรงข้ามลงทั้งในระบบราชการ และหน่วยงานอื่นๆ ที่ทำได้ สุดท้ายฝ่ายตรงข้ามก็ตายไปเรื่อยๆ รัฐธรรมนูญก็จะถูกแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยในที่สุด

เราก็ทำใจก็แล้วกันว่า "เราต่อสู้ในสงครามยืดเยื้อ ยาวนานขึ้น" เราใจร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก เพราะฝ่ายตรงข้ามก็ยังไม่ได้อ่อนลงมาก จนเราสามารถพิชิตศึกลงไปได้ทันที พิชิตศึกเร็วไม่ได้ก็ต้องทำสงครามยืดเยื้อครับ

ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยตอนนี้ก็ต้องอยู่ให้นานที่สุด ปรับระบบข้าราชการตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป เพราะเวลา ปชป.ขึ้นเขาจะเอาคนของเขามาจ่อตั้งแต่ระดับล่างเลย สุดท้ายระบบราชการก็เป็นคนใต้หมด ไม่ว่าจะเป็นศาล หรือฝ่ายกฎหมาย ส่วนใหญ่เป็นคนใต้ เราจึงเห็นความเพี้ยนไม่รู้จักจบสิ้นของการดิ้นช่วยพวกพ้อง

พรรคเพื่อไทยก็ต้องรู้จักสร้างฐานอำนาจของพรรค ไม่อย่างนั้นก็กุมบังเหียนไม่ได้อยู่อย่างนี้แหละ โดนบ่อนแซะไปเสียทุกจุด เพราะเวลา ปชป.ขึ้นเป็นรัฐบาล งานแรกที่เขาทำคือ "วางคนใต้ในระบบราชการต่างๆ" ตั้งแต่ระดับปฎิบัติขึ้นไปเลย

หากเราอยู่เป็นรัฐบาลนานระบบราชการจะปรับตัวเข้าหาเราในที่สุด
ทั้งศาล ทหาร... ที่มีคนบอกห้ามแตะ แต่มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่าเราต้องแตะทั้งหมดแบบมีศิลปะค่อยๆ วางคนแทรกคนเข้าไป สุดท้ายหากมีฝ่ายประชาธิปไตยเกินครึ่ง องค์กรเหล่านี้ก็ต้องเปลี่ยนไป

หากไม่แตะเข้าไปแก้ไขทั้ง 3 จุดนี้ ก็แก้ไขปัญหาที่รากฐานไม่ได้

No comments: