ศาลอุทธรณ์สั่ง ขังยาวจำเลยคดีหมิ่น โจ กอร์ดอน : เป็นความผิดที่กระทบกระเทือนใจปวงชนผู้จงรักภักดี!
ที่มา สำนักกฎหมายราษฎรประสงค์
วานนี้( ๖ ก.ย.)เวลา ๑๑.๐๐ น. ศาลอาญาได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ ซึ่งทนายความได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ประกันตัวนายโจ กอร์ดอน หรือนายเลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์ จำเลยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยได้ระบุเหตุผลในคำวินิจฉัยว่า
” พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ความผิดมีอัตราโทษสูง ตามพฤติการณ์แห่งคดีและลักษณะแห่งการกระทำนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อสถาบัน พระมหากษัติริย์อันเป็นที่เทิดทูนและเคารพสักการะ กระทบกระเทือนจิตใจปวงชนผู้จงรักภักดี แม้โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้แล้วแต่พยานยังไม่เข้าเบิกความต่ออศาลอาจเกิดความ เสียหายแก่รูปคดี และหากปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยอาจจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว คำสั่งศาลชั้นต้นชอบแล้ว ยกคำร้อง และแจ้งเหตุผลการไม่อนุญาตให้จำเลยและผู้ขอประกันทราบโดยเร็ว ”
นาย Joe Gordon หรือ นายเลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์ เป็นอดีตคนไทยที่เปลี่ยนสัญชาติเป็นคนอเมริกา ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2554 ที่จังหวัดนครราชสีมา ที่บ้านพัก และถูกนำตัวมาสอบสวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรุงเทพมหานครฯ ต่อมาได้นำตัวมาฝากขังและคุมขัง ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ตั้งข้อหา หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยกล่าวหาว่าเป็นคนแปล หนังสือเรื่อง ” The king never smiles ” ซึ่ง Joe Gordon ให้การปฏิเสธทั้งในชั้นจับกุม และชั้นสอบสวน
ทั้งนี้ ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๔ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาพิเศษ ๑ สำนักงานอัยการสูงสุดได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องโดยกล่าวหาว่า ระหว่างวันที่ 2 พ.ย.50 – 24 พ.ค.54 จำเลยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในเว็บบอร์ดคนเหมือนกันและเชื่อมโยงไปสู่ บล็อก โดยจำเลยใช้นามแฝงว่า สิน แซ่จิ้ว ซึ่งอ้างตัวเป็นผู้แปลหนังสือต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรชื่อ The King Never Smiles จากฉบับอังกฤษเป็นไทย จำเลยนำข้อความซึ่งเป็นคำแปลดังกล่าวลงเพยแพร่ในเว็บบอร์ดเพื่อเผยแพร่บท ความที่มีลักษณะพาดพิง วิพากษ์วิจารณ์พระมหากษัตริย์ อันเป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จากนั้นยังนำลิงก์ไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ชุมชนฟ้าเดียวกัน และเว็บไซต์ชุมชนคนเหมือนกัน เพื่อให้บุคคลเข้าไปอ่านคำแปลดังกล่าว
จำเลยให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน และชั้นศาล ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๔
*****
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:จดหมายจากคุกถึงทำเนียบขาว ท่านประธานาธิบดีเสรีภาพอเมริกันถูกย่ำยีโดยประเทศโลกที่3อย่างไทย
กราบเรียน ท่านประธานาธิบดีโอบาม่า-ผม เขียนจดหมายนี้ถึงท่าน เป็นเรื่องความเป็นความตายของผมในคุกที่กรุงเทพฯ,ประเทศไทย ทางการไทยจับกุมผมด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ผมไม่สามารถต่อสู้คดีนี้ในกระบวนการยุติธรรมไทยได้แต่เพียงลำพัง เพราะว่า มันเป็นกระบวนการที่ฉ้อฉล อคติ และละเมิดสิทธิมนุษยชน ซ้ำร้ายยังเต็มไปด้วยการปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรม เป็นต้นว่า ในกรณีของผม มีการจองจำโดยไม่ให้ประกันตัว ผมจึงรู้สึกว่าน่าสลดใจที่เสรีภาพในการแสดงออกของเราชาวอเมริกัน ได้ถูกละเมิด ย่ำยี และลดทอนคุณค่าลงโดยประเทศโลกที่สามอย่างไทย
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา สำนักกฎหมายราษฎรประสงค์
มีความลำบากบางประการที่จดหมายจากนักโทษในเรือนจำจะสามารถส่งผ่านออกมาได้ การจดบันทึกจากต้นฉบับจึงเป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่เสียงจากแดนตารางจะเร็ด ลอดออกมาได้
คุณโจ กอร์ดอน นักโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประเทศที่ได้ชื่อว่า “สิทธิมนุษยชน” ถูกบังคับใช้อย่างกว้างขวางและเท่าเทียม ทว่า ชายคนนี้ คนที่ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในประเทศไทย ไม่เคยสัมผัสแต่เพียงนิดเดียว…ดังต่อไปนี้
(ฉบับแปล โดย ไทยอีนิวส์)
กราบเรียน ท่านประธานาธิบดีโอบาม่า
ผมเขียนจดหมายนี้ถึงท่าน เป็นเรื่องความเป็นความตายของผมในคุกที่กรุงเทพ,ประเทศไทย ทางการไทยจับกุมผมด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และกฎหมายความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ รัฐบาลไทยใช้กฎหมายนี้กับนักกิจกรรม ปัญญาชน นักข่าว นักเขียน และนักการเมือง โดยคุมขังคนเหล่านี้ในเรือนจำนานนับทศวรรษในหลายกรณีแล้ว
ผมไม่สามารถต่อสู้คดีนี้ในกระบวนการยุติธรรมไทยได้แต่เพียงลำพัง เพราะว่า มันเป็นกระบวนการที่ฉ้อฉล อคติ และละเมิดสิทธิมนุษยชน ซ้ำร้ายยังเต็มไปด้วยการปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรม เป็นต้นว่า ในกรณีของผม มีการจองจำโดยไม่ให้ประกันตัว ผมจึงรู้สึกว่าน่าสลดใจที่เสรีภาพในการแสดงออกของเราชาวอเมริกัน ได้ถูกละเมิด ย่ำยี และลดทอนคุณค่าลงโดยประเทศโลกที่สามอย่างไทย
ผมอยากเรียกร้องให้อเมริกันชนทั้งมวลลุกขึ้นเถิดเพื่อสนับสนุนการปกป้องต่อ เกียรติภูมิของรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกาที่บัญญัติให้เสรีภาพในการแสดงออก เป็นข้อบทที่สำคัญยิ่ง ทว่ารัฐบาลไทยไม่ยอมรับ รัฐบาลอเมริกันควรต้องพิทักษ์ปกป้องและประณามที่ไทยใช้กฎหมายอันมิชอบนี้ เป็นเครื่องมือปกป้องสถาบันกษัตริย์ให้พ้นไปจากการวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอเมริกันเช่นผมที่โดนกระทำอยู่ในเวลานี้ และเพรียกหาอิสรภาพ ประเทศไทยต้องปล่อยผมจากคุกตั้งแต่บัดนี้
ขอพระเจ้าทรงอำนวยพระพรท่านประธานาธิบดี และอเมริกา
ด้วยความเคารพยิ่ง
โจ กอร์ด้อน
เรือนจำกรุงเทพฯ ประเทศไทย
( ฉบับภาษาอังกฤษที่จดบันทึกจากต้นฉบับ )
Dear President Obama :
I am writing to you as a matter of life and dead from jail in Bangkok, Thailand. The Thai authority charges me with lese “ majeste” and computer crime laws. The Thai government uses these laws to target activists , scholars, journalists, authors and politicians and sentence them to decade in prison on multiple charges.
I cannot fight my case against the Thai justice system alone. Because, the system is corrupted , bias, and violated human rights. Therefor, there is no fair treatment. For example, my case, by detaining me and not allowing bail. Beside, I feel sad to see our freedom of expression has been insulted, punished, and degraded by the third world country like Thailand.
I would like to ask all americans to stand up, support, and defence our “proud” U.S.constitutions freedom of expression that the Thai government does not respect. American government should protest and condemn Thailand for using this abusive laws as a tool to protect the royal institution from criticism, especially, my case in American soil. And, demands Thailand to release me from jail immediately.
God bless you , God bless America.
Sincerely,
Joe Gordon
Bangkok Jail, Thailand
I am writing to you as a matter of life and dead from jail in Bangkok, Thailand. The Thai authority charges me with lese “ majeste” and computer crime laws. The Thai government uses these laws to target activists , scholars, journalists, authors and politicians and sentence them to decade in prison on multiple charges.
I cannot fight my case against the Thai justice system alone. Because, the system is corrupted , bias, and violated human rights. Therefor, there is no fair treatment. For example, my case, by detaining me and not allowing bail. Beside, I feel sad to see our freedom of expression has been insulted, punished, and degraded by the third world country like Thailand.
I would like to ask all americans to stand up, support, and defence our “proud” U.S.constitutions freedom of expression that the Thai government does not respect. American government should protest and condemn Thailand for using this abusive laws as a tool to protect the royal institution from criticism, especially, my case in American soil. And, demands Thailand to release me from jail immediately.
God bless you , God bless America.
Sincerely,
Joe Gordon
Bangkok Jail, Thailand
_____________________________________________________
Joe Gordon หรือ นายเลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์ เป็นอดีตคนไทยที่เปลี่ยนสัญชาติเป็นคนอเมริกัน ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2554 ที่จังหวัดนครราชสีมา ที่บ้านพัก และถูกนำตัวมาสอบสวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรุงเทพมหานครฯ ต่อมาได้นำตัวมาฝากขังและคุมขัง ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ตั้งข้อหา หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยกล่าวหาว่าเป็นคนแปล หนังสือเรื่อง ” The king never smiles ” ซึ่ง Joe Gordon ให้การปฏิเสธทั้งในชั้นจับกุม และในชั้นสอบสวน
Joe Gordon ได้ถูกพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการได้ร่วมกันสอบสวน และ ได้ฝากขังโดยใช้อำนาจศาลถึง ๗ ผลัดเต็ม (ผลัดละ ๑๒ วัน) จึงยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๔ ซึ่งทนายความและญาติได้ยื่นประกันตัวหลายครั้ง แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวโดยให้เหตุผลว่า
Joe Gordon หรือ นายเลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์ เป็นอดีตคนไทยที่เปลี่ยนสัญชาติเป็นคนอเมริกัน ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2554 ที่จังหวัดนครราชสีมา ที่บ้านพัก และถูกนำตัวมาสอบสวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรุงเทพมหานครฯ ต่อมาได้นำตัวมาฝากขังและคุมขัง ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ตั้งข้อหา หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยกล่าวหาว่าเป็นคนแปล หนังสือเรื่อง ” The king never smiles ” ซึ่ง Joe Gordon ให้การปฏิเสธทั้งในชั้นจับกุม และในชั้นสอบสวน
Joe Gordon ได้ถูกพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการได้ร่วมกันสอบสวน และ ได้ฝากขังโดยใช้อำนาจศาลถึง ๗ ผลัดเต็ม (ผลัดละ ๑๒ วัน) จึงยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๔ ซึ่งทนายความและญาติได้ยื่นประกันตัวหลายครั้ง แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวโดยให้เหตุผลว่า
“ตามพฤติการณ์แห่งคดีและลักษณะการกระทำนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย สู่สถาบันกษัติริย์อันเป็นที่เทิดทูนและเคารพสักการะ กระทบกระเทือนต่อจิตใจของปวงชนผู้จงรักภักดี ประกอบกับพนักงานสอบสวนได้คัดค้าน จึงเชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ”
พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาพิเศษ ๑ สำนักงานอัยการสูงสุดได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องโดยกล่าวหาว่า ระหว่างวันที่ 2 พ.ย.50 – 24 พ.ค.54 จำเลยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในเว็บบอร์ดคนเหมือนกัน และเชื่อมโยงไปสู่บล็อก โดยจำเลยใช้นามแฝงว่า สิน แซ่จิ้ว ซึ่งอ้างตัวเป็นผู้แปลหนังสือต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรชื่อ The King Never Smiles จาก ฉบับอังกฤษเป็นไทย จำเลยนำข้อความซึ่งเป็นคำแปลดังกล่าวลงเพยแพร่ในเว็บบอร์ดเพื่อเผยแพร่บท ความที่มีลักษณะพาดพิง วิพากษ์วิจารณ์พระมหากษัตริย์ อันเป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จากนั้นยังนำลิงก์ไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ชุมชนฟ้าเดียวกัน และเว็บไซต์ชุมชนคนเหมือนกัน เพื่อให้บุคคลเข้าไปอ่านคำแปลดังกล่าว
จำเลยให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน และชั้นศาล ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๔
เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ ทนายความและญาติได้นำหลักทรัพย์จำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ยื่นประกันตัวต่อศาลอาญาอีกครั้ง แต่ศาลยังยืนยันคำสั่งเดิม
ต่อมาวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๔ ทนายความได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งเพื่อหวังขอความยุติธรรมต่อศาลอุทธรณ์
นี่ไม่ใช่นักโทษรายแรกที่ถูกจองจำโดยถูกปฏิเสธการให้ประกันตัว และอาจไม่ใช่รายสุดท้ายเช่นกัน !
No comments:
Post a Comment