นายโรเจอร์เปิดเผยว่าตนเข้ามาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี2532 โดยแต่งงานกับหญิงไทยคนหนึ่งจนมีบุตรด้วยกัน 1 คนชื่อ น.ส.จีน่า แลร์ ฮาร์เปล อายุ 17 ปี ต่อมาได้เลิกกับหญิงคนดังกล่าว และมีภรรยาใหม่ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของลูกสาวคนโต และมีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 11 ขวบ ต่อมาในปี 2548 ตนจดทะเบียนเปิดบริษัท เอิร์ท 666 ประกอบกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่พัทยา และ บริษัท เคจีอี ซึ่งเป็นบริษัทส่งออก แต่เนื่องจากเป็นชาวต่างชาติจึงให้ภรรยาเป็นกรรมการบริษัทดำเนินกิจการแทนในทางกฎหมาย
นายโรเจอร์กล่าวอีกว่า ตนมีเอกสารที่ระบุชัดว่าเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของลูกสาววัย 11 ขวบ ดังนั้นจึงต้องการเรียกร้องทรัพย์สินที่ถูกยักยอกไปกลับคือ เพราะขณะนี้ตนไม่เหลืออะไรแล้ว ตอนเดินทางมาจากสหรัฐมีเงิน 25 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่เมื่อมีปัญหาฟ้องร้อง ตนไม่รู้ภาษาไทยทำให้หลงเชื่อทนายที่ต่อสู้จึงทำให้เสียเปรียบทางด้านกฎหมายมาตลอด ดังนั้นสิ่งที่ต้องการร้องขอความช่วยเหลือจากกรมคุ้มครองสิทธิฯ คือขอความช่วยเหลือในการจัดตั้งทนายเพื่อต่อสู้คดียักยอกทรัพย์สิน ขอให้จัดล่ามแปลภาษาอังกฤษเพื่อตนจะได้ทราบรายละเอียดการต่อสู้คดี เพราะตนไม่มีเป้าหมายประนีประนอม แต่ต้องการนำทรัพย์สินคืน และขอให้ศาลมีคำสั่งว่าด.ญ.วัย 11 ขวบที่เกิดกับภรรยาเป็นบุตรของตน
เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหตุบังเอิญและชะตากรรมแต่เกิดจากความโลภของผู้หญิงคนนี้ซึ่งเป็นคนที่ผมไว้ใจไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิด เพราะเคยเป็นพี่เลี้ยงของลูกสาวคนโตมาก่อน ทำให้ผมไว้วางใจ ตอนนี้ผมไม่คิดอะไรมากขอเพียงแค่ทรัพย์สินคืน ผมไม่เหลืออะไรแล้วแม้แต่ที่นอน เพราะบ้านที่เคยเป็นของผมก็ถูกศาลมีคำสั่งขายทอดตลาดไปแล้วŽ นายโรเจอร์กล่าว
พระครูสมุห์สุเทพเปิดเผยว่า ช่วงที่นายโรเจอร์ มาอาศัยอยู่ที่วัดก็ได้ช่วยงานหลายอย่าง อาทิ กวาดลานวัด ตีระฆังเช้าเย็น และเป็นครูสอนธรรมะภาคภาษาอังกฤษซึ่งก็ทำได้ดีและขยัน ทั้งนี้สำหรับทรัพย์สินที่นายโรเจอร์ถูกอดีตภรรยาที่เสียชีวิต ยักยอกถ่ายโอนไปให้กับญาติพี่น้องก่อนเสียชีวิต ประกอบด้วย ทรัพย์สินในบริษัท เอิร์ท 666 ประกอบกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่พัทยา จำนวน 11 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินบ้านพัก 2 หลังอยู่ในเมืองพัทยา มูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท และที่ดินอีกหลายแปลงทางภาคอีสาน ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดรวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
ขณะที่ พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะพยายามหาทางช่วยเหลือทางด้านกฎหมายโดยจะจัดหาทนายสู้คดี ซึ่งคงไม่สามารถเรียกคืนได้ทั้งหมด เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับธรรมเนียมศาลและการตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์พ่อลูกนั้น กรมคุ้มครองสิทธิฯ ก็ยินดีจะรับผิดชอบให้ทั้งหมด
