2012-12-09

ประกาศความแน่วแน่!! ในวันปีใหม่อย่างเด็ดเดี่ยว

ประกาศความแน่วแน่!! ในวันปีใหม่อย่างเด็ดเดี่ยว

Share
เมื่อสามสิบปีก่อน ผู้เขียนจำเหตุการณ์ได้ว่า ตนเองเริ่มประกาศความเด็ดเดี่ยวเป็นครั้งแรกในวันหนึ่งใกล้ ๆ วันปีใหม่อย่างนี้แหละ และจนถึงวันนี้ก็ยังจดจำภาพนั้นติดตามาตลอด ขอนำมาเล่าให้ฟังเผื่อจะจุดประกายอะไรได้บ้าง

เช้านั้นที่ป้ายรถเมล์ ในกรุงเทพ ฯ บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ผู้คนพลุกพล่านเพราะเป็นวันสุดท้ายในการทำงานก่อนที่จะหยุดยาวช่วงวันปีใหม่ ผู้คนยืนรอรถเมล์เต็มไปหมด รวมทั้งตัวผู้เขียน รถเมล์สมัยนั้นไม่ติดแอร์ ต้องยืนโหนไปตลอดสายหากมีที่นั่งว่างก็โชคดีไป ขณะที่รออยู่ผู้เขียนก็เหลือบไปเห็นหญิงชราคนหนึ่งเดินเร่ขอเงินผู้คนแถว ๆนั้น ด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ เธอมีอายุประมาณ 50-60 ปี รูปร่างผอม หลังโกง สภาพการแต่งกายบ่งบอกถึงความยากจนและความลำบากในการดำรงชีวิต เธอหยุดขอเงินซื้ออาหารจากผู้คนที่รอรถเมล์และเดินผ่านไปมา หลาย ๆ คนเดินหนี หลายคนแกล้งมองไม่เห็น บางคนก็ทำท่ารังเกียจ เธอเดินผ่านมาที่ผู้เขียนซึ่งก็เหมือนกับคนอื่น ๆ คือปฎิเสธ เพราะหอบข้าวของรุงรัง ไม่สะดวกในการค้นหาเศษเงินในกระเป๋าสะพาย และเกรงว่าหากรถเมล์มาถึง ผู้เขียนอาจจะพลาดโอกาสที่จะได้ที่นั่ง

หญิง ชราทำท่าหงอย ๆ เดินเลี่ยงไปยืนข้าง ๆ เวลาผ่านไปประมาณ10 นาที รถก็ยังมาไม่ถึง ผู้เขียนเห็นหญิงชราคนดังกล่าวเดินไปนั่งลงบนม้านั่งในป้ายรถเมล์ที่ว่างพอ ดี ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งตัวดีมาก เธออยู่ในวัยประมาณ 35 ปี เดินอย่างรีบเร่งผ่านมา หญิงชราลุกขึ้นและเดินไปหาเธอ แบมือขอเงินบอกว่าจะเอาไปซื้อข้าวทาน ยังไม่ได้ทานข้าวเลย นักธุรกิจสาวหยุดเดินทันที เธอยิ้มและมองตรงนัยน์ตาของหญิงชรา พร้อมกับถามอย่างเบา ๆ ว่า “ยายจะเอาเท่าไหร่จ๊ะ” ผู้เขียนไม่ได้ยินคำตอบของหญิงชรา แต่ก็เห็นผู้หญิงคนนั้น เธอหยิบกระเป๋าเงินออกมาและหยิบธนบัตร สองสามใบให้กับหญิงชรา ซึ่งลนลานรับเงินจากเธอด้วยน้ำตาคลอเบ้า แล้วกลับไปนั่งที่ม้านั่งตัวเดิม ผู้หญิงคนนั้นหันมายิ้มให้ผู้เขียนนิดหนึ่ง แล้วเธอก็เดินเลี้ยวเข้าไปยังตึกใหญ่ ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ ป้ายรถเมล์นั้น
ผู้ เขียนไม่ทราบว่าหญิงชรา จะนำเงินไปซื้อข้าว ซื้อของอื่น ๆ หรือนำไปให้ใคร ไม่ใช่เรื่องที่ผู้เขียนสนใจอีกต่อไป ผู้เขียนกำลังมึนงงกับความรู้สึกที่ ต่อต้านกันอย่างรุนแรงในใจ ต่างหาก ถามตัวเองว่าสิ่งที่เราได้เรียนรู้ ได้เห็นในวันนี้มันคือขบวนการทางความคิดที่แตกต่างกันของผู้คนหลายฝ่าย ฝ่ายหนึ่งปฎิเสธที่จะให้ เพราะรังเกียจหรือไม่เชื่อถือหรือใจดำจริง ๆ ฝ่ายที่สองปฎิเสธที่จะให้ เพราะขี้เกียจ และมักง่าย คิดแบบตัวใครตัวมัน (เช่นตัวผู้เขียนเอง) ส่วนฝ่ายที่สามคือกล้าที่จะแตกต่าง ไม่คิดมาก เธอทำประหนึ่งว่าหญิงชราคือพี่สาวของเธอเอง ผู้เขียนยังจำรอยยิ้มที่อบอุ่นแว่บหนึ่ง ที่เธอยิ้มให้ผู้เขียนก่อนเดินจากไป คล้าย ๆ จะบอกว่า “หวังว่า วันหนึ่งหนูคงมีโอกาสที่จะได้ทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง โดยไม่เกรงว่าจะแปลกแยกนะจ๊ะ” ผู้เขียนได้ตัดสินใจทันที ในนาทีนั้นว่า ถึงเราจะอยู่ในโลกใบนี้อย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปิดกั้นการแสดงความเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์
แด่…. ผู้หญิงนิรนามคนนั้น เธอคือ “ปีใหม่ “ของผู้เขียนมาตลอด 30 กว่าปี
ขอให้วันนี้เป็นวันปีใหม่ที่เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวสำหรับทุกท่านค่ะ
วารีนา ปุญญาวัณน์
บรรณาธิการ
พัทยาเดลินิวส์