“คิดอย่างไร
ก็ได้อย่างนั้น” … จริงหรือ?
คำพูดที่ว่า “คิดอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น” เป็นคำพูดที่เกี่ยวข้องกับความคาดหวังของคนในสังคม
ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งด้านดีและร้าย ขึ้นอยู่กับว่าคาดหวังอะไร ลองมาพิจารณาดูกันว่า
ในมิติทางจิตวิทยาและเศรษฐศาสตร์ ข้อความนี้จะเป็นจริงได้หรือไม่
คำพูดที่ว่า “คิดอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น” เป็นคำพูดติดปากของสังคม ที่จริงแล้ว ในทางเศรษฐศาสตร์
(รวมถึงอีกหลายศาสตร์) ก็มีคำอธิบายที่มาที่ไปของคำนี้เอาไว้
Self-fulfilling Prophecy ซึ่งมีความหมายเป็นภาษาไทยว่า คิดอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น
แท้จริงแล้วหมายถึง การคาดการณ์อันเป็นสาเหตุให้สิ่งที่คาดการณ์นั้นๆ
เป็นจริงขึ้นมาภายหลัง โดยอาจจะการคาดการณ์ทางตรงหรือทางอ้อมก็ได้
[เคยมีตำนานหนึ่งของกรีกที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ
ผู้ชายคนหนึ่งเฝ้าหลงรักรูปปั้นผู้หญิง จึงทะนุถนอมและให้ความรัก
ราวกับเป็นผู้หญิงจริงๆ
จนเทพบนสวรรค์รู้สึกเห็นใจและเสกรูปปั้นนั้นมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ
ถูกนำมาอ้างอิงว่าเป็นที่มาของแนวคิดนี้]
นักสังคมวิทยาชื่อ Robert K.Merton ดูเหมือนว่าจะเป็นคนแรกๆ
ที่นำเอาคำนี้มาใช้ โดยยกตัวอย่างง่ายๆ ว่า ถ้าเราเชื่ออย่างผิดๆ
อยู่เสมอว่าชีวิตสมรสของเราจะล่ม ความกลัวที่อยู่ในใจของเราจะส่งผลต่อพฤติกรรม
จนทำให้มันล่มจริงๆ เข้าในสักวันหนึ่ง
……….
กระบวนการที่ก่อให้เกิด Self-fulfilling Prophecy เรียกว่า Pygmalion
Effect เกี่ยวข้องกับการกระทำของพวกเราแต่ละคน
ได้ก่อให้เกิดความคาดหวังจากคนอื่นในสังคม จนเป็นการกระทำของพวกเขาเหล่านั้น
และนำมาซึ่งความคาดหวังของตัวเราเองด้วยเช่นกัน
“Pygmalion Effect” (ที่มาของภาพ)
บทประยุกต์ทางเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับ
Self-fulfilling Prophecy มักจะเกี่ยวข้องกับการคาดการณ์ราคาสินค้าและราคาสินค้าที่เกิดขึ้นจริงตามมา
ตัวอย่างแรก เช่น
หากคนในสังคมอยู่ในภาวะสงคราม หรือสถานการณ์ภัยพิบัติ พวกเขาย่อมคาดการณ์ว่า
สินค้าจะขาดแคลนและราคาจะสูงขึ้น จากนั้นทุกคนก็จะกักตุนสินค้า
ส่งผลให้สินค้าขาดแคลน และนำมาซึ่งราคาที่สูงขึ้นจริงๆ สุดท้ายแล้ว
ราคาสินค้าไม่ได้สูงขึ้นเพราะสงครามหรือภัยพิบัติ
แต่สูงขึ้นเพราะทุกคนคาดการณ์ไปในทางเดียวกัน
ตัวอย่างที่สอง ในทางตรงกันข้าม
หากคนในสังคมคาดการณ์ว่าสินค้าอาจจะลดราคาลง พวกเขาก็จะชะลอการซื้อ
จนในที่สุดราคาสินค้าก็ต้องลดลงมาจริงๆ แต่ถ้าทุกคนยังคงรอไปเรื่อยๆ
อย่างที่เคยเกิดขึ้นในญี่ปุ่น ดัชนีราคาสินค้าในญี่ปุ่นลดลงอย่างต่อเนื่อง
แต่ชาวญี่ปุ่นก็ยังคงชะลอการซื้อต่อไป เพราะยิ่งลดราคา ก็ยิ่งทำให้ประชาชนคาดการณ์ว่าพรุ่งนี้
ราคาจะถูกลงไปกว่าวันนี้ ผลก็คือสินค้าขายไม่ออกจริงๆ
จนสุดท้ายนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจแทน [ไม่ต่างไปจากถ้าเราคิดว่าธนาคารจะล้ม
เราก็จะแห่กันไปถอนเงิน ผลก็คือธนาคารจะล้มจริงๆ
ไม่ใช่ธนาคารล้มเพราะไม่มีประสิทธิภาพ แต่ล้มเพราะคนไปถอนเงินพร้อมๆ กัน]
[นอกจากนี้
ความกลัวผิดหวังอันเป็นสามัญสำนึกของมนุษย์นั้น
จะส่งผลให้การคาดการณ์ในทางดีมีจำกัด แต่การคาดการณ์ในทางร้ายไม่จำกัด นั่นคือ
หากคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจะดี ถึงจุดหนึ่งการคาดการณ์จะหยุดลง
แต่หากคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะแย่ กลับจะไม่มีจุดสิ้นสุด]
ที่น่าสนใจก็คือ ประเด็นของ “คิดอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น” มันสามารถเป็นจริงได้ ถ้าสังคมร่วมกัน
และทำให้เรารู้ว่า การบริหารจัดการเศรษฐกิจให้ดีได้จำต้องบริหารจัดการความคาดหวังด้วย
เช่นหากจะทำให้เศรษฐกิจดีก็ต้องทำให้ประชาชนเชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น
ไม่ต่างจากในช่วงที่เกิดภัยธรรมชาติ
หากเราซื้อหาสินค้าเท่าที่จำเป็น สินค้าก็จะไม่ขาดแคลนและราคาจะไม่สูงขึ้น
รวมถึงทุกคนก็จะมีเพียงพอ เช่นเดียวกันกับ
ถ้าเราทุกคนเชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้อย่างเข้มแข็ง เราก็จะผ่านไปได้ด้วยกัน
ขอเอาใจช่วยผู้ประสบภัยทุกคนค่ะ
*******************************
อันนี้เป็นมุขขำ
แต่เรื่องจริงคือ "คิดอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น”
ใน the secret กฎแห่งแรงดึงดูด อธิบายได้แม่นมากๆๆๆ
หรือแม้แต่คำสอนของหลวงปู่ชา ที่ว่า
......
เธอจงระวังความคิดของเธอ
เพราะความคิดของเธอจะกลายเป็นความประพฤติของเธอ
เธอจงระวังความประพฤติของเธอ
เพราะความประพฤติของเธอจะกลายเป็นความเคยชินของเธอ
เธอจงระวังความเคยชินของเธอ
เพราะความเคยชินของเธอจะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ
เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ
เพราะอุปนิสัยของเธอจะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต
( หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง )
*******************************
อันนี้เป็นมุขขำ
แต่เรื่องจริงคือ "คิดอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น”
ใน the secret กฎแห่งแรงดึงดูด อธิบายได้แม่นมากๆๆๆ
หรือแม้แต่คำสอนของหลวงปู่ชา ที่ว่า
......
เธอจงระวังความคิดของเธอ
เพราะความคิดของเธอจะกลายเป็นความประพฤติของเธอ
เธอจงระวังความประพฤติของเธอ
เพราะความประพฤติของเธอจะกลายเป็นความเคยชินของเธอ
เธอจงระวังความเคยชินของเธอ
เพราะความเคยชินของเธอจะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ
เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ
เพราะอุปนิสัยของเธอจะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต
( หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง )
No comments:
Post a Comment