2013-11-07

"ณัฐวุฒิ" เผย พท.เตรียมเปิดเวทีทำความเข้าใจประชาชนทั่วประเทศ





  เวลา 16.00 น. วันที่ 7 พ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย แกนนำนปช.ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวถึงสถานการณ์การเมืองภายหลังการถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและ พ.ร.บ.ปรองดองออกจากสภาฯ

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เราคารพการแสดงเจตนารมณ์ของประชาชนทุกฝ่ายที่มีต่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายสนับสนุน โดยเฉพาะฝ่ายที่เคลื่อนไหวคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ เท่ากับว่าได้แสดงจุดยืนตามเสรีภาพที่คุ้มครองตามกฎหมาย ถึงเวลานี้ปรากฏชัดว่าพรรคเพื่อไทย รัฐบาลและ ส.ว.เคารพในเจตนารมณ์ของประชาชน และแสดงท่าทีถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและ พ.ร.บ.ปรองดองที่ค้างอยู่ในวาระ ดังนั้นประเด็นนี้ได้ข้อยุติแล้ว ซึ่งจะไม่มีการเดินหน้าในชั้นวุฒิสภา ถือว่าการเคลื่อนไหวของทุกกลุ่มแสดงออกครบถ้วนและบรรลุตามวัตถุประสงค์แล้ว ดังนั้นอยากฝากไปถึงทุกกลุ่มว่าควรจะทบทวนการเข้าร่วมชุมนุมในเวทีต่างๆ ซึ่งต้องการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย ซึ่งขณะนี้มีความเคลื่อนไหวเชื่อมโยงเป็นระบบ มีนัยยะสำคัญ เช่น การที่นายสุเทพได้นัดหมายพบกับผู้บารมีคนหนึ่งที่แปซิฟิกคลับ สุขุมวิท โดยได้พูดจาถึงสถานการณ์การชุมนุม และปลายสัปดาห์ก่อนผู้มีบารมีคนเดิมถามว่าทำไมคนน้อยไม่เหมือนที่พูดกัน นายสุเทพบอกว่าเดี๋ยวคนก็มากเอง ของเตรียมไว้พร้อมแล้ว และได้โชว์มือถือ ซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไรแต่ต้องการเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อโค่นล้มรัฐบาล

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรามีความเห็นว่าจะจัดเวทีปราศรัยใน กทม.และทั่วประเทศ โดยใช้ชื่อว่า “นปช. เพื่อไทยปกป้องประชาธิปไตย” เริ่มวันที่ 10 พ.ย.ที่ กทม.วันที่ 11 พ.ย.ที่ จ.ขอนแก่น วันที่ 12 พ.ย.ที่ จ.เชียงใหม่ วันที่ 13 พ.ย.ที่ จ.อุดรธานี วันที่ 14 พ.ย.ที่ จ.ชลบุรี จากนั้นจะประเมินสถานการณ์กันต่อว่าจะตั้งเวทีชี้แจงประชาชนอย่างไรให้ต่อเนื่อง นอกจากนี้จะดำเนินการรายการ “ความจริงวันนี้” ภาคพิเศษ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อให้ประชาชนรับทราบ ทั้งนี้ เหตุที่ตนเห็นต่างกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพราะนิรโทษกรรมให้แกนนำและผู้สั่งการ ควรจะมีการพิสูจน์ด้วยกระบวนการยุติธรรม ผู้มีอำนาจสั่งการต้องได้รับผิดชอบทางกฎหมาย ที่เจ็บปวดที่สุดเพราะไม่คิดว่าคนที่ถูกอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดีสังหารประชาขน จะไปตั้งเวทีในพื้นที่เดียวกันกับที่มีการใช้ปืนติดลำกล้องสังหารประชาชนเกือบสามสิบราย และสะอึกสะอื้นว่าเป็นการทวงความเป็นธรรมให้คนตาย ไม่คิดว่าคนเป็นนักการเมืองเดินไปถึงจุดสูงสุด เป็นถึงรองนายกฯ จะขาดซึ่งสำนึก แสดงความเลือดเย็นออกมาได้ ในเมื่อศาลมีการไต่สวนและวินิจฉัยออกมาว่าสิบกว่าชีวิตเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่แต่นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ หาได้มีความสำนึกไม่ ที่นายอภิสิทธิ์ขึ้นเวทีบอกเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนตายนั้น ถ้าดวงวิญญาณคนตายรับรู้ได้จะร้องไห้ตลอดเวลา

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า สุดท้ายวันนี้ฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหลายแม้จะเห็นต่างใน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่สถานการณ์ใหญ่ คือการโค่นล้มรัฐบาล ทำลายกระบวนการประชาธิปไตยของทั้งประเทศ ดังนั้นต้องจัดการภายในเพื่อเผชิญปัญหาภายนอก จัดการภายใน คือการปรับทุกข์ ผูกมิตร ทำความเข้าใจ แสดงความเป็นเอกภาพ ปัญหาภายนอก คือพรรคประชาธิปัตย์กำลังโค่นล้มรัฐบาล ดังนั้นไม่อาจให้ฝ่ายนั้นทำหรือสร้างกระแสเพียงฝ่ายเดียว ฝ่ายประชาธิปไตยต้องสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องด้วย แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ดารเคลื่อนไหวเพื่อเผชิญน้าหรือปะทะกันของประชาชน เราจะดำเนินการด้วยความรัดกุมด้วยท่วมทำนองของคนรักประชาธิปไตย ทั้งนี้ ขอฝากไปถึงแกนนำม็อบรุ่นน้องอย่างนายสุเทพ ว่าชกคนเดียวมาหลายวันแล้ว ขอให้ตนได้แสดงความเห็นต่อประชาชนด้วยท่วงทำนองและท่าทีที่ไม่รุนแรงและไม่เผชิญหน้าบ้าง

No comments: