2014-02-24

เปรียบเทียบงบช่วยชาวนากับงบช่วยกองทัพ


เปรียบเทียบงบช่วยชาวนา
กับงบช่วยกองทัพ
เมื่อเปรียบเทียบงบช่วยเหลือชาวนาซึ่งเป็นประชากร40% กับงบป้องกันประเทศ หรืองบรายจ่ายด้านการทหาร พบว่างบรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 ของกระทรวงกลาโหม วงเงินราว 180,000 ล้านบาท เทียบกับปีงบประมาณ 2555ที่ได้รับงบเงินราว 168,000 ล้านบาท กระทรวงกลาโหมได้งบประมาณมากกว่าเดิมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท เป็นอันดับที่15 ของโลก มีกำลังพลประจำการราว 316,000 คน และกำลังพลสำรองอีกราว 200,000 คน
ถ้าประเทศไทยไม่มีกองทัพคงจะดีกว่านี้แน่
ขณะที่สถานการณ์ที่ตึงเครียดไปทั่วโลกล้วนเกิดขึ้นในประเทศที่มีกองทัพขนาดใหญ่

แต่หลายประเทศที่ไม่มีกองทัพยังอยู่อย่างสุข สบายดี เช่น เกรนาดา คอสตาริกา ซานมาริโน ซามัว โดมินิกัน ปานามา มัลดีฟส์ ลิกเตนสไตน์ วาติกัน หมู่เกาะโซโลมอน เฮติ  โมนาโก หมู่เกาะมาร์แซลล์ และไอซ์แลนด์ 
บางประเทศแม้ว่าจะมีกองทัพ แต่ก็ไม่มีการเกณฑ์ทหารคือ กรีซ กายนา คาซัคสถาน แคนาดา โครเอเชีย ซิมบับเว ซูรินาเม ไซปรัส เดนมาร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ บราซิล บัลแกเรีย เบลเยียม เบอร์มิวดา ปารากวัย โปแลนด์ โปรตุเกส ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ มอลโดวา มอลตา ยูเครน ยูโกสลาเวีย เยอรมัน รัสเซีย โรมาเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย สเปน สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐเช็ก สโลวีเนีย ออสเตรเลีย ออสเตรีย อาเซอร์ไบจัน เอสโตเนีย แอฟริกาใต้ อังกฤษ อิสราเอล อิตาลี อุรุกวัย อุซเบกิสถาน และฮังการี
สภาพที่ประเทศไม่มีกองทัพ หรือมีกองทัพแต่ก็ไม่มีการเกณฑ์ทหาร อาจเป็นสิ่งที่น่าแปลกสำหรับคนไทยที่ถูกสอนมาตลอดให้เชื่อว่า กองทัพเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ต่อความมั่นคงของชาติ

แต่ถ้าประเทศไทยไม่มีกองทัพ 

ก็ย่อมไม่มีการการรัฐประหารหรือกบฏที่ล้วนเกิดจากการใช้กำลังทหารทั้งสิ้น เมื่อไม่มีกองทัพก็ย่อมที่จะไม่มีการเกณฑ์ทหาร ก็จะไม่มีช่องทางทุจริตคอรัปชันในการเกณฑ์ทหาร พ่อแม่ผู้ปกครองของเยาวชนที่อายุครบเกณฑ์ทหารก็ไม่ต้องนอนผวาว่า ลูกหลานจะถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร  เมื่อไม่มีกองทัพ งบประมาณเป็นแสนๆ ล้านในแต่ละปีย่อมถูกนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศในด้านอื่น ประเทศไทยก็คงจะเจริญรุ่งเรืองกว่านี้มาก เมื่อไม่มีกองทัพ พี่น้องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้คงอยู่เย็นเป็นสุขขึ้นมาบ้าง เพราะหนึ่งในสาเหตุที่ความไม่สงบเกิดขึ้นในภาคใต้ก็เนื่องมาจากการมีกำลังทหารจำนวนมากเข้าไปอยู่ในพื้นที่ โดยบางส่วนไปจากพื้นที่อื่นซึ่งไม่ใช่กองกำลังในพื้นที่ ซึ่งมีแต่ไปเพิ่มปัญหามากกว่าไปแก้ปัญหา เพราะไม่รู้สภาพพื้นที่และขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่น
เมื่อไม่มีกองทัพ ที่ทางต่างๆนับเป็นแสนหรือล้านๆไร่ก็ย่อมจะถูกนำไปใช้ประโยชน์พัฒนาทางเศรษฐกิจได้คุ้มค่า ที่สำคัญยังมีประชาชนที่ยังไม่มีที่ทำมาหากินอีกมาก
เมื่อไม่มีกองทัพก็ย่อมลดความบาดหมางกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะการปะทะกันด้วยกำลังทหารตามชายแดนย่อมน้อยลงหรือหมดไป ที่ผ่านมา แม้ว่าศักยภาพของกองทัพไทยจะเหนือกว่ากองทัพกัมพูชาหลายเท่าตัว เครื่องบินรบไทยสามารถใช้เวลาบินไม่กี่นาทีถึงเมืองหลวงของกัมพูชา แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรกัมพูชาได้ เพราะมีกฎหมายระหว่างประเทศ มิหนำซ้ำกลับต้องเพลี่ยงพล้ำในเวทีการเมืองระหว่างประเทศที่ทำให้กัมพูชาสามารถนำคดีกลับไปสู่ศาลโลก เพื่อตีความคำพิพากษารอบใหม่ได้อีก ทำให้การมีกองทัพที่เหนือกว่าไม่มีความหมายแต่อย่างใดจึงเห็นได้ว่า หากกองทัพไทยมีขนาดที่เล็กลง ไม่มีการบังคับขู่เข็ญให้ลูกคนจนต้องถูกเกณฑ์เป็นทหาร และจำกัดบทบาทของทหารที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว ประเทศไทยต้องไปได้ดีกว่านี้ แม้ว่ากองทัพจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์อยู่ในมือที่พร้อมจะทำรัฐประหารได้ก็ตาม แต่หากประชาชนไม่เอาด้วยกองทัพก็ยากที่จะดำรงอยู่ได้
กองทัพไทยจึงเป็นได้แค่กาฝากที่หากินกับงบการทหารจำนวนมหาศาลและคอยปกป้องรักษาระบอบเผด็จการนิยมกษัตริย์มาตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

No comments: