10 อุปทานหมู่รอบโลก
อุปทานหมู่ ( mass hysteria ) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับจิตสังคมซึ่งเกิดขึ้นกับบุคคลตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ในกรณีที่กลุ่มบุคคลนั้นมีความคิดความเชื่อว่าตนเจ็บป่วยเป็นโรคเดียวกันหรือเผชิญปัญหาเดียวกัน จึงแสดงอาการออกมาแบบเดียวกัน เช่น หลายคนออกอาการเหมือนผีเข้า หลายคนส่งเสียงกรีดร้องโดยไม่มีเหตุผล บางรายเห็นภาพหลอน แสดงกิริยาก้าวร้าวออกมาเป็นต้น
ข้อมูล teen.mthai.com อ้างอิง toptenthailand
อุปทานหมู่รอบโลก อันดับที่ 10 น้ำทะเลหาดมาฮิมมีรสหวาน
- เมื่อปี 2006 ที่ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย เกิดปรากฏการณ์ประหลาดเมื่อชาวเมืองที่อาศัยอยู่ในมุมไบต่างอ้างว่า น้ำทะเลหาดมาฮิมมีรสหวาน
- หาดมาฮิม Mahim Creek หนึ่งในลำธารที่มีมลพิษทางน้ำมากที่สุดในอินเดีย
- เกิดจากน้ำเสียและกากอุตสาหกรรมที่โรงงานต่างๆปล่อยลงสู่ท้องทะเล
- ไม่กี่ชั่วโมงผ่านไป ประชาชนเมืองกูจารัต (Gujarat) ที่อยู่ใกล้ๆกันก็รายงานว่าน้ำทะเลจากชายหาด (Teethal) ในตัวเมืองกลับมีรสหวานเช่นกัน
จากเหตุการณ์นี้ทำให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างพากันวิตกกังวลกับปรากฏการณ์ ดังกล่าว เพราะประชาชนจำนวนมากต่างพากันดื่มน้ำเสียซึ่งอาจจะทำให้เกิดการระบาดของโรคมากับน้ำเสีย เช่นกระเพาะและลำไสอักเสบ หรือบางต่างพากันเก็บน้ำทะเล “รสหวาน” ใส่ภาชนะด้วยเชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์ที่ควรบูชานับถือ คณะกรรมการควบคุมมลพิษออกมาเตือนคนว่าห้ามดื่มน้ำและนำตัวอย่างน้ำทะเลไป ตรวจวิเคราะห์และเตือนไม่ให้ประชาชนดื่มน้ำจากทะเลจนกว่าจะได้ผลวิเคราะห์ จากห้องปฏิบัติการ ในขณะที่พอหนึ่งวันผ่านไป น้ำทะเลก็กลับมามีรสเค็มเหมือนเดิม โอ้ประหลาดดีแท้จริงๆ !
โรคหัวเราะไม่หยุด แทมนิยา เป็นเหตุการณ์ในปี 1962 ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งชื่อ Kashasha บน ชายฝั่งตะวันตกของ ทะเลสาปวิคตอเรีย ในประเทศแทนแกนนิยา ( แทนซาเนีย ในปัจจุบันอยู่ติดเคนยา ) ทวีปแอฟริกา
เหตุการณ์นี้เริ่มต้นเมื่อกลุ่ม นักเรียนหญิงในโรงเรียน แห่งหนึ่งพูดคุยและ เล่าเรื่องตลกกัน และเรื่องตลกนี้ทำให้เด็กกลุ่มนั้นเริ่มหัวเราะ จากกลุ่มเล็กๆ กลายเป็นว่ามันกลายเป็นโรคระบาดไปทั่ว โรคระเบิดหัวเราะได้ขยายวงไปยังคนอื่นที่อยู่รอบข้าง คนที่เดินผ่าน คนที่ไม่เกี่ยวข้อง จนถึงโรงเรียนและหมู่บ้านอื่นๆ จนเป็นเหตุทำให้โรงเรียนปิดกะทันหัน และเมื่อเด็กนักเรียนต่าง(หัวเราะ)กลับบ้านไป และก็นำเอาโรคหัวเราะไม่หยุดไปติดพ่อแม่ ผู้ปกครองอีก การหัวเราะไม่หยุดขยายเป็นวงกว้างจากหมู่บ้านดังกล่าวไปยังหมู่บ้านอื่น ชุมชนรอบข้าง คนเป็นพันๆ ได้รับผลกระทบนี้
จนกระทั่งผ่านไปหกเดือนมันจึงยุติลง แต่กระนั้นก็เกิดผลข้างเคียงต่างๆ นาๆ เช่น เมื่อคนอื่นหยุดหัวเราะแล้ว ทุกคนต่างพากันร้องไห้คร่ำครวญ เป็นลมหมดสติ ผื่นขึ้น เจ็บปวด และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
อุปทานหมู่รอบโลก อันดับที่ 8 รูปปั้นฮินดูดื่มนม
มหัศจรรย์ รูปปั้นฮินดูดื่มนม เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายน 1995 ในตอนเช้าที่วัดทางภาคใต้ของ นิวเดลี ที่ถวายนมแก่รูปปั้นพระพิฆเนศ โดยการเอาช้อนดักนมเต็มช้อนแล้วสัมผัสริมผีปากรูปปั้นเพื่อเป็นการถวายตาม ประเพณี แต่ปรากฏว่าเกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้น เมื่อนมที่เป็นของเหลวค่อยๆ หายไปต่อหน้าต่อตา จนหลายคนชื่อว่าเป็นเพราะรูปปั้นดื่มนม
- หลังจากเหตุการณ์นี้เรื่อง มหัศจรรย์รูปปั้นฮินดูดื่มนมได้แพร่กระจายปากต่อปากไปอย่างรวดเร็ว จนมีรายงานว่าหลายคนในวัดทั้งภาคเหนือต่างพยายามเอานมป้อนรูปปั้นกันทั่ว หน้า
- ผลปรากฏว่ารูปปั้นพระเจ้าฮินดูโบราณหลายองค์สามารถดื่มน้ำนมได้
- เหตุการณ์นี้ได้ระบาดมายังประเทศไทยด้วยเมื่อพระพิฆเนศในที่ต่างๆทั่วโลก (รวมทั้งประเทศไทย) ได้เริ่มดื่มนมที่คนนำมาถวาย
- เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นอยู่หลายสัปดาห์ก่อนที่จะยุติลง
หลังจากผ่านไป 10 ปีแล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังหาข้อยุติไม่ได้ว่าอะไรเกิดขึ้นกันแน่ แต่ในภายหลังได้การพิสูจน์ความจริงบางประการที่ยังไม่ยินยัน 100% ว่าชัวร์หรือเปล่า นั่นคือการพบว่ารูปปั้นหลายรูปมีโพรงน้อยใหญ่เหมือนฟองน้ำสามารถกักน้ำได้ในปริมาณมากนั่นเอง
อุปทานหมู่รอบโลก อันดับที่ 7
- ปี 1962 เกิดโรคระบาดลึกลับใน แผนกตัดเย็บเสื้อผ้าของโรงงานสิ่งทอ แห่งหนึ่งในสหรัฐ อเมริกา
- เมื่อสาวโรงงานกว่าหกสิบคน เกิดอาการ มึนงง คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ เป็นลมหมดสติ บางรายถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาล
- โดยมีหลายคนอ้างว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากการถูกแมลงชนิดหนึ่งกัด
- ภายหลัง แพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานสาธารณสุขได้ออกมาตรวจสอบและสรุปว่าเป็น ปรากฏการณ์อุปาทานหมู่
จากการตรวจสอบ ไม่พบว่ามีแมลงที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว ในบรรดาคนงานทั้งหมดที่ป่วยเข้าโรงพยาบาล ไม่มีใครเลยที่มีแผลถูกแมลงกัด แพทย์เชื่อว่ามีคนงานบางคนถูกแมลงกัดแต่เพียงเล็กน้อย แต่กลับเกิดความกังวลเกินกว่าเหตุจนแสดงออกมาเป็นอาการประหลาดดังกล่าว
อุปทานหมู่รอบโลก อันดับที่ 6 Morangos com Acucar virus
- ละครเรื่อง Morangos com Acucar เป็นละครวัยรุ่นที่นิยมอย่างมากในประเทศตุรกี โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตของเด็กวัยรุ่นทั่วไป
- ในเดือนพฤษภาคม ปี 2006 มีการระบาดของโรคที่ชื่อว่า ‘Morangos com Acucar virus’
- มีรายงานว่าครั้งแรกระบาดในโรงเรียน 14 แห่ง นักเรียนมากกว่า 300 คน
- เกิดอาการประหลาดๆซึ่งคล้ายคลึงกับอาการของตัวละครหนึ่งในละคร
อาการดังกล่าวได้แก่ ผื่นขึ้น หายใจลำบาก วิงเวียนศีรษะ รุนแรงถึงขนาดบางโรงเรียนต้องปิดลง หน่วยสาธารณสุขได้ออกมาตรวจสอบและสรุปว่าเป็นปรากฏการณ์อุปทานหมู่ซึ่งเกิด จากละคร จนบรรดาผู้ปกครองต่างพากันวิตกกังวล เพราะละครน้ำเน่าดังกล่าวไม่ได้ฉายทางทีวีอย่างเดียว มันยังตีพิมพ์เป็นตอนๆในหนังสือพิมพ์ นิตยสารและอื่นๆ
อุปทานหมู่รอบโลก อันดับที่ 5 เลือดแอมโมเนีย
- เมื่อเวลา 8:15 ในตอนเย็น เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์, 1994
- กลอเรีย รามิเรซ Gloria Ramirez อายุ 31 ปี หญิงสาวที่อาศัยยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เกิดอาการป่วยจากโรคมะเร็งปากมดลูกกำเริบ ต้องเข้าห้องภาวะฉุกเฉินของโรงพยาบาลในเมืองแคลิฟอร์เนียทางใต้ของ Riverside
- เธอใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้น มีอาการแปลกๆ อาการตื่น หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็วเกินไป ความดันเลือดสูง และ เธอตอบสนองกับคำถามสั้นๆ พูดตะกุตะกะ
- คณะแพทย์ที่รักษากลอเรียต้องทำการปั๊มหัวใจเธอ เขาลอกเสื้อเชิ้ตของเธอออก และ กดขั้วไฟฟ้าที่หน้าอกของเธอ
- ในระหว่างนั้นเอง บางคนได้กลิ่นผลไม้ และ กระเทียมออกจากปากของเธอ แพทย์เลยทำการเจาะเลือดเพื่อวิเคราะห์
- นางพยาบาล Susan Kane ทำการแนบกระบอกฉีดยา เลือดของเธอมีสีแปลกๆ มีกลิ่นเหมือนแอมโมเนีย
- จากนั้นหายนะก็เกิด เมื่อเลือดของเธอพุ่งกระเด็นจากช่องรูเข็มฉีดยามันไปโดนหน้านางพยาบาลจนหน้าของเธอไหม้ !! (เลือดของเธอมีวัสดุประหลาดๆคล้ายเศษ กระดาษอยู่ภายใน) เธอล้มลงไปกับพื้น คลื่นไส้อาเจียน
- จากนั้นพยาบาลอีกคนก็ล้มชักอีกคน จากนั้นมันเริ่มลุกลามมายังคนใกล้เคียง
ใครก็ตามที่ได้สัมผัสร่างกาๆหไยหรือเลือดของเธอ ต่างพากันป่วยไข้กันไปหมด จนผู้บริหารโรงพยาบาลออกประกาศภาวะฉุกเฉินภายใน ผลสุดท้ายมีผู้ป่วยจากเหตุการณ์นี้จำนวน 23 (คณะที่รักษาเธอมี 37 คน) ซึ่งทั้งหมดถูกจับเพื่อเข้าเขตกักกันเชื้อโรคทั้งหมด โดยมีอาการเหมือนหญิงที่ป่วยในตอนแรกไม่มีผิด
ภายหลังมีผลสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้พบว่าหญิงคนนั้นและคนป่วยทั้งหมดในเหตุการณ์นี้ คือ ในบรรดาพนักงานที่ล้มป่วย เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และจากผลการตรวจเลือดผู้ป่วยทั้งหมดก็พบว่าไม่มีความผิดปกติใดๆเลย จึงสรุปปรากฏการณ์ที่ไม่ทราบสาเหตุนี้ว่าเป็นอุปทานหมู่ (อีกตามเคย) ทำให้เรื่องราวของเธอยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
อุปทานหมู่รอบโลก อันดับที่ 4
The War of the Worlds เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ เขียนโดย เอช.จี. เวลส์ นักเขียนชาวอังกฤษ ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1898 เนื่อเรื่องบรรยายถึงเหตุการณ์ที่มนุษย์ต่างดาวจากดาวอังคาร ส่งยานอวกาศเข้ามาโจมตีกรุงลอนดอน
- The War of the Worlds เป็นนวนิยายเรื่องแรกที่กล่าวถึงการรุกรานโลกจากต่างดาว
- นวนิยายถูกนำมาดัดแปลงเป็นละครวิทยุ ความยาว 60 นาที โดย ออร์สัน เวลส์ ออกอากาศทางเครือข่ายซีบีเอส ของสหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 1938
- เนื่องในวันฮาโลวีน ส่งผลให้เกิดความโกลาหลในหลายมลรัฐทางตะวันออก ผู้ฟังรายการที่ไม่ได้ฟังประกาศจากสถานีตอนต้นของรายการ ว่าเป็นเรื่องแต่ง ทำให้คนต่างเข้าใจว่ามีมนุษย์ต่างดาวโจมตีโลกจริงๆ ออกจากบ้านเพื่อหนีตายด้วยความตื่นตระหนก
- เนื่องจากในขณะนั้นเกิดความตึงเครียดว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง มีผู้วิจัยว่า จากจำนวนผู้ฟัง 6 ล้านคน มี 1.7 ล้านคน คิดว่าเป็นเหตุการณ์จริง
- ในจำนวนนี้ 1.2 ล้าน เกิดความตื่นตระหนก ประชาชนหลายคนอุปาทานว่าตนเองได้กลิ่นก๊าซลึกลับ เห็นวัตถุประหลาด เห็นแสงวูบวาบ เกิดการชุมนุมจนตำรวจต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์
เมื่อพิจารณาดูแล้ว คล้ายคลึงกับที่บรรยายในนิยายไม่มีผิด หลังจากนั้นได้มีผู้นำ นวนิยายเรื่องนี้ไปออกอากาศทางวิทยุอีกหลายครั้ง เช่นในปี ค.ศ. 1944 ที่กรุงซานติอาโก ประเทศชิลี ปี ค.ศ. 1949 ที่กรุงกีโต ประเทศเอกวาดอร์ และ ค.ศ. 1950 ทางสถานีวิทยุบีบีซี
อุปทานหมู่รอบโลก อันดับที่ 3 Y2K
คราวนี้อุปทานแตกตื่นกันไปทั่วทุกมุมโลก ก่อนจะถึงปี 2000 ช่วงนั้นโลกของเราวุ่นวายมากๆ เพราะมีหลายคนเชื่ออะไรหลายๆ อย่าง เช่น คำทำนายของนอสตราดามุส และ พุทธทำนาย ก็ล้วนแต่จ้องจะเกิดในช่วงนี้ทั้งสิ้น แต่ที่โด่งดังที่สุดเห็นจะไม่เกิน ปัญหาคอมพิวเตอร์ปี 2000 (Y2K)
- ปัญหา Y2K อ่านว่า วาย ทู เค หรือ Year two thousand ซึ่งหมายถึงปี ค.ศ. 2000
- คำนี้เป็นศัพท์ทางวงการคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ปี ค.ศ. เป็นเลข 2 หลัก กล่าวคือ ปี ค.ศ. 1900 จะบันทึกเป็น 00 คือ 2 หลักหลัง (ขณะนี้เป็น 1999 จะบันทึกเป็น 99)
- เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงปี ค.ศ. 2000 จะต้องบันทึกเป็น 00 ตามแนวทางเดิมซึ่งจะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์จะไม่ทราบได้ว่าเป็นปี 1900 หรือ 2000 หากแต่คอมพิวเตอร์จะคิดว่าเป็นปี 1900
ฉะนั้นการคำนวณใดที่เกี่ยวข้องกับวัน และเวลา จะผิดไปหมด เช่น คิดอายุผิด คิดดอกเบี้ยผิด การนัดหมาย การจองโรงแรม หรือสายการบิน และ ถ้าร้ายแรงหน่อยก็ จะทำให้ระบบคอมที่ควบคุมการยิงขีปนาวุธของรัสเซียและอเมริกาจะผิดพลาด ระบบการเงิน ATM จะ ปั่นป่วนทั่วโลกจะวุ่นวายสับสน ห้องฉุกเฉินใน รพ.ระบบเครื่องมือแพทย์จะรวน คนจะตายหลักล้าน หลายคนคาดว่าระบบโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่ของโลกอาจจะต้องหยุดทำงาน ระบบทุกชนิดตั้งแต่ลิฟต์ไปจนถึงระบบควบคุมการบินต่างตกอยู่ในความเสี่ยงทั้งสิ้น ความกลัวว่าการดำเนินธุรกิจต่างๆ จะเป็นอัมพาต สารพัดสารเพ
- เหตุการณ์ Y2K นำ มาซึ่งความวุ่นวายต่อมวลมนุษย์อย่างมากในช่วงนั้น ต่างตื่นตะหนก หลายคนเชื่อว่าปัญหานี้จะทำให้มนุษย์กลับเข้าสู่ยุคหินหรือเป็นวันสิ้นโลก เลยทีเดียว
- หลายฝ่ายระดมผู้เชี่ยว ชาญคอมพิวเตอร์ยกใหญ่ในการแก้ปัญหา แก้ระบบคอมแก่หน่วยงานใหญ่ๆหลายพันล้านดอล
- รวมถึงประเทศไทยด้วย แก้เซ็ทระบบกันระนาว
- มีคนฆ่าตัวตายหมู่เพื่อหลีกหนีวันสิ้นโลก
- พวกเด็กต่างเครียดเป็นแถบๆ เพราะว่ากลัวเล่นเกมส์ไม่ได้
- ปัญหา Y2K ก็สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 1999
เมื่อเหตุการณ์ของโลกปกติสุขไม่มีปัญหาเรื่อง Y2K แต่อย่างใดเลย(เนื่องจากมีการเตรียมการอย่างดี) และวันที่ 1 มกราคมปี 2000 ก็เหมือนกับวันอื่นๆ ไม่มีรายงานข่าวว่ามีระบบเสียหายครั้งใหญ่ที่ไหนเลย
อุปทานหมู่รอบโลก อันดับที่ 2 โรคจู๋หด
อันนี้ท่าทางผู้ชายคงตื่นตระหนกกันไปหมดทั้งโลก ว่ากันว่า Koro “ โรคจู๋ ” หรือ “ โรคอวัยวะเพศหด ”เป็นโรคทางจิตที่มีความคิดว่าอวัยวะเพศของตัวเองหดหรือหายไป
- โรคนี้เกิดขึ้นทั่วโลกในแอฟริกา และ เอเชีย พบได้ในประเทศ ทางภูมิภาคเอเซียอาคเนย์ เช่น อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์
- โดยมากจะพบในคนเชื้อสายจีนโดยความเชื่อท้องถิ่นจะมีความเชื่อว่าเมื่ออวัยวะเพศของตัวเองหดอาจทำให้ตาย หรือเสียชีวิตได้
- ทำให้เกิดความกลัวที่ว่าอวัยวะเพศจะหดเข้าไปในช่องท้องตนเองจะถึงแก่ความตาย จนทำทุกวิธีการเพื่อไม่ให้อวัยวะเพศหด
- คือชอบจับและดึงอวัยวะเพศไว้ บางรายก็เลยร้องเรียกให้คนช่วยดึง (เอ้อ! ไปกันใหญ่)
- แต่ส่วนใหญ่ไม่ยอมให้เพศตรงข้ามช่วย เพราะถือว่าเป็นข้อห้าม
- บางรายถึงกับให้ผูกอวัยวะเพศไว้ (เอ้า! หนักเลยคราวนี้ 555+)
- มีความเชื่อแปลกๆ ตามมาเช่น ห้ามกินแตงโม ห้ามเดินข้ามขนม้าและมูลเต่า บางแห่งห้ามเดินผ่านเต่าเพราะถ้าเต่าหดหัวจะพลอยทำให้จู๋หดไปด้วย!!!
โรคนี้ระบาดในสิงคโปร์ในปี 1967 จนรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ต้องเร่งแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ส่วนสาเหตุของโลกนี้ก็แปลกๆ พอๆ กันคือจากการตรวจสอบพบว่าผู้มีอาการนี้ส่วนใหญ่จะมีกิจกรรมทางเพศมากเกินไป บางรายเกิดอาการหลังจากมีเมียน้อยไม่นาน หรืออวัยวะเพศกระทบกับความเย็นนานเกินไป หรือรับประทานอาหารสุกๆดิบๆ ปละหลาดดีแท้ !
อุปทานหมู่รอบโลก อันดับที่ 1 แม่มดแห่งซาเล็ม
นี้คือเหตุการณ์อุปทานหมู่สุดเหลือเชื่อ การสอบสวนแม่มดแห่งซาเล็ม เป็นคดีที่ผู้พิพากษาสั่งฟ้องร้องผู้คนกล่าวหาว่า มีการใช้เวทมนตร์คาถาใน Essex, Suffolk, และ Middlesex ในเขตอาณานิคมรัฐแมสซาซูเซตต์ ระหว่างกุมภาพันธ์ 1692 และ1693
มีจำนวนกว่า 150 ถูกจับกุมและจำคุก
มีหลายคนถูกแขวนคอ และประหารชีวิต
หนึ่งในนั้นคือไกล์ คอเรย์ ( Giles Cory ) ผู้ซึ่งไม่ยอมบอกข้อมูลของแม่มดซาเล็ม เขาถูกหินบดทับจนถึงแก่ความตาย และ อีกห้าคนตายในคุก
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม ปี 1692 เมื่อเด็กหญิงหลายคนในหมู่บ้านซาเล็ม รัฐแมสซาซูเซตต์ เมืองเล็กๆ ในอเมริกา คืออลิซาเบธ แพร์ริส (Elizabeth Parris) อายุ 9 ปี บุตรสาวของซามูเอล แพร์ริสผู้นำนิกายโปรเตสแตนท์และเป็นนายกเทศมนตรีท้องถิ่นแห่งหมู่บ้านซาเล็ม อบิเกล วิลเลี่ยม (Abigail Williams) อายุ 12 ปี หลานสาวของมูเอล และแอน พัตนัม (Ann Putnum) อายุ 12ปี ลูกสาวของครอบครัวพัตนัม และเพื่อนๆ เกิดอาการเป็นลมหน้ามืด และมีอาการผิดปรกติหลายอย่าง เช่น หวีดร้องโหยหวน สักพักก็ล้มชักดิ้นชักงอ หน้าตาบิดเบี้ยว อยู่ในสภาวะไม่รู้สึกตัว กล่าวถ้อยคำดูหมิ่นพระเจ้า ศาสนา ถ้อยคำบางท่อนก็ฟังดูประหลาดลึกลับ คล้ายกับภาษาโบราณที่ฟังไม่รู้เรื่อง
จากนั้นชั่วเวลาไม่นานนัก เด็กสาวอีกหลายคนก็แสดงอาการพฤติกรรมประหลาดที่ว่าเกิดขึ้นอีกหลายๆ หลังคาเรือน ภายใต้ความกดดันอย่างหนักที่จะระบุแหล่งที่มาและต้นกำเนิดของภัยร้าย จู่ๆ บรรดาเด็กสาวได้อ้างชื่อผู้หญิงออกมาสามคนคือ ทิทูบา อินเดียน(Tituba), ซาราห์ ออสบอร์น (Sarah Osburn ) และ ซาราห์ กู๊ด(Sarah Good) ทาสรับใช้คาริบเบียนที่อาศัยในบ้านของซามูเอล แพร์ริส…ว่าเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์นี้ ต่อมาหญิง 3 คนนั้นก็ถูกจับ ออสบอร์ยืนยันความบริสุทธิ์
แต่ทิทูบา กลับสารภาพว่าฝึกเวทย์มนต์คาถาของแม่มดจริงๆ ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาชาวเมืองจำนวนมากออกมาต่อว่าว่าเคยถูกก่อกวนและเคยเห็นร่าง ปีศาจจำแลงของคนในชุมชนเดียวกัน ทำให้เกิดล่าแม่มดขึ้น มีผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดก็มีเพิ่มทุกขณะ ถึงเดือนมิถุนายน 1692 ผู้ว่าการรัฐ จัดตั้งศาลพิเศษเพื่อพิจารณาคดีแม่มดโดยเฉพาะ เรียกว่า “ศาล พิเศษเพื่อรับฟังความและตัดสินโดยพิจารณาความเชื่อถือ” ศาลแห่งนี้ตัดสินความโดยพิจารณาคดีจากการกล่าวหาซึ่งๆ หน้า มีการประมวลวัตถุพยาน ทั้งที่จับต้องได้และจับไม่ได้ ส่งผลทำให้ผู้บริสุทธิ์ถูกตัดสินประหารชีวิตจำนวนมาก(ทั้งศาลยุติธรรมและศาล เตี้ย) กว่าเรื่องนี้จะสิ้นสุดก็อีก 19 ปีต่อมา โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 1711 กฎหมาย ฉบับใหม่ได้สั่งให้คืนทรัพย์สมบัติที่ยึดมาจากผู้ตายและครอบครัว