2018-11-21

ปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการ


1เห็นความสำคัญของตัวเอง. โลกนี้ยังมีเรื่องดี ๆ เรื่องใหม่ๆ ให้เรียนรู้อีกมากมายมีเพื่อนที่ดีอีกมากให้เลือกหา มีคนที่รักเราอย่างจริงใจอีกเยอะแยะ มันไม่ได้มืดมนต์ไปเสียทั้งหมดหรอก

หากเป็นกรณีภรรยาหรือสามี ที่มีคู่สมรสเป็นจอมบงการ พยายามมองหากิจกรรมนอกบ้านที่สร้างสรรค์ เช่น การช่วยสังคม หรืองานประเภทจิตอาสาทั่วไป รวมถึงการทำงานหารายได้พิเศษ ถ้าเป็นไปได้ คุณควรหลีกเลี่ยงการทะเลาะ ต่อปากต่อคำพยายามหาเหตุผลอธิบายพวกเขาอย่างสร้างสรรค์ ว่าคุณทนไม่ไหวกับสถานการณ์แบบนี้แล้ว คุณจึงพยายามหากิจกรรมนอกบ้าน 

หากสถานการณ์มันแย่เกินทนแล้วจริงๆ ก็อย่าทรมานตัวเองต่อไปอีกเลย คนเพียงคนเดียวไม่มีสิทธิในการควบคุมชีวิตคุณขนาดนั้น ดังนั้น จงหาทางออกให้กับตัวเอง ต่อให้คุณยังคิดไม่ออกว่าจะไปไหน ยังไงก็จงรีบชิ่งออกมาก่อนที่คุณจะประสาทเสียไปมากกว่านี้




2เลือกที่จะให้อภัย โดยทั่วไปแล้ว พวกจอมบงการมักแฝงความกลัว และความรู้สึกไม่มั่นคงเอาไว้ภายใน ซึ่งทำให้พวกเขาขาดความสุขและไม่เคยรู้สึกพอใจสิ่งต่างๆ พวกเขาอยากเห็นตัวเองเป็นคนที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้( เช่น บ่น ด่าว่าคู่สมรส เลยไปถึงลูกเต้า ) ด่าซ้ำซาก อยากให้คนอื่นปรับปรุงตัวเอง แต่ตัวเขามองไม่เห็นความบกพร่องของตนเอง เพราะ พวกเขาไม่เข้าใจในจุดนี้ จึงทำให้ขาดทักษะในการปรับตัวเพื่อความสำเร็จ และส่งผลลบต่ออารมณ์ของพวกเขาเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเศร้า

อย่างไรก็ตาม ต่อให้คุณสงสารคนประเภทนี้ คุณก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเค้าได้ ทางที่ดีคุณควรจะเดินไปตามเส้นทางแห่งความสุขของตัวเอง เพราะตราบใดที่พวกเขาไม่ยอมปรับปรุงตนเอง พวกเขาก็ไม่มีวันจะได้พบกับความสุขทางใจอย่างแน่นอน
การเดินตามเส้นทางแห่งความสุข อาจไม่จำเป็นต้องแยกทางก็ได้ ในบางบริบท คุณสามารถเลือกใช้เวลาเป็นการส่วนตัวมากขึ้น เช่น ทำงานอดิเรกที่ตนเองชอบ หรือดื่มด่ำอยู่กับการศึกษาคำสอนทางศาสนา เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการพบปะหรือเผชิญหน้ากับจอมบงการในชีวิตคุณ จำเอาไว้อย่างเดียวว่า อย่าปล่อยให้คำพูดของพวกเขา เข้ามาทำลายความนับถือตนเองของคุณได้ จงดูแลตัวเองให้ดี เพราะคุณไม่ได้มีหน้าที่กอบกู้ชีวิตของพวกจอมบงการ

3.เรียกพลังของตัวเองกลับคืนมา. กว่าจะรู้ตัวว่าคุณถูกจอมบงการทำลายชีวิตไปมากแค่ไหน ก็มักจะเกือบสายเกินแก้แล้ว ดังนั้น พยายามรักและเมตตาตัวเองให้มาก เพราะที่ผ่านมา คุณอาจจะถูกพูดกรอกหู หรือถูกปฏิบัติเยี่ยงคนไร้ค่า รวมถึงถูกจอมบงการครอบงำให้เชื่อว่า คุณมันไม่เอาถ่าน เพียงเพื่อที่จะกักขังคุณไว้ให้อยู่ใต้อุ้งเท้าพวกเขา เชื่อเถอะว่า คำพูดต่างๆ ของคนประเภทนั้น ไม่มีอะไรเป็นความจริงทั้งสิ้น มันเป็นแค่เทคนิคที่ใช้บงการคนจิตอ่อนอย่างคุณเท่านั้น ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณจะต้องตระหนักในคุณค่าของตัวเองเสียใหม่แล้ว
ในขั้นตอนการฟื้นฟูความมั่นใจของตัวเองกลับคืนมานี้ จะเป็นการดีมาก หากคุณได้ใช้เวลาร่วมกับเหล่าคนที่ทำให้คุณรู้สึกดี และไม่มีแรงจูงใจในการครอบงำคุณ
ทำในสิ่งที่คุณถนัดและให้คุณค่ากับมัน ที่ผ่านมา คุณอาจจะยังเชื่อว่าตนเองไม่เอาไหน เพราะถูกจอมบงการครอบงำมานานเกินไป จงใช้เวลานับจากนี้ไป ในการทำกิจกรรมต่างๆที่คุณมั่นใจว่าทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปะ กีฬา ธุรกิจ หรือด้านใดก็ตาม

4วางแผนอนาคต. ในกรณีเฉพาะหน้านี้ คุณควรเริ่มจากการวางแผนเรื่องงาน/ความสัมพันธ์ ซึ่งก็คือสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ที่คุณต้องรับมือกับจอมบงการไปพลางๆก่อน ดังนั้น จงตัดสินใจว่าจะอยู่หรือจะไปจากพวกเขา หากเลือกที่จะอยู่ก็ควรกำหนดระยะเวลาเอาไว้ด้วย เพื่อเป็นการเผื่อทางหนีทีไล่ไว้ให้ตัวเอง และช่วยให้ไม่เครียดมากนัก โดยระหว่างที่ยังต้องอยู่ร่วมกับพวกเขา พยายามหาทางรับมือไว้ให้ดีๆ อย่าไปต่อล้อต่อเถียงด้วย หากจำเป็นต้องพูดอะไร ก็ขอให้พูดอย่างใจเย็นและชาญฉลาด ดยไม่จำเป็นต้องยอมถูกครอบงำอีกต่อไป จงหันมาทำสิ่งต่างๆเพื่อตนเองแทน
ท้ายที่สุดแล้ว การแยกทางจากพวกเขา อาจเป็นทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่อยู่ไปก็มีแต่ผลเสียต่อตัวเอง

---------------------------------------------------------------


บ้านแตกสาแหรก “ไม่” ขาด

No comments: