คุณสมจิตต์ครับ.. ความจริงแล้ว
ผมไม่ค่อยอยากตอแยกับผู้สื่อข่าวอย่างคุณเลยครับ โดย
: ทวดเอง
/ บ้านราษฎร์
เหตุเพราะว่า แม้คุณสมจิตต์จะเป็นสื่อสารมวลชนคนหนึ่ง แต่คุณสมจิตต์ก็เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่งที่มีทั้งรัก โลภ โกรธ หลง อีกทั้งผมเองก็ไม่ถนัดกับการตอแยผู้หญิงเสียด้วย ดังนั้นผมจึงไม่เคยคิดจะยุ่งย่ามกับคุณสมจิตต์เลย
เหตุเพราะว่า แม้คุณสมจิตต์จะเป็นสื่อสารมวลชนคนหนึ่ง แต่คุณสมจิตต์ก็เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่งที่มีทั้งรัก โลภ โกรธ หลง อีกทั้งผมเองก็ไม่ถนัดกับการตอแยผู้หญิงเสียด้วย ดังนั้นผมจึงไม่เคยคิดจะยุ่งย่ามกับคุณสมจิตต์เลย
ตั้งแต่ผมหันมาสนใจการเมืองในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา แต่เป็นความโชคร้ายของผมอย่างยิ่ง ที่บังเอิญไปอ่านเจอความคิดเห็นของคุณสมจิตต์จากลิงค์นี้
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE1qQXdPVEkwT1E9PQ==&catid=07
ทำให้ผมเกิดคันไม้คันมือขึ้นมา ก็เลยอยากขอโอกาสเขียนถึงคุณสมจิตต์สักครั้งหนึ่งนะครับ คุณสมจิตต์ครับ ผมเชื่อคุณสมจิตต์เป็น
“ผู้หญิงคนหนึ่ง”จริงๆตามที่คุณสมจิตต์กล่าวอ้างถึง แม้จะคลางแคลงใจอยู่บ้าง แต่ก็จะยกประโยชน์ให้กับคุณสมจิตต์ เพราะไม่รู้ว่าคุณสมจิตต์จะมาโกหกเพื่อประโยชน์อะไร
แต่ที่คุณสมจิตต์ยกตัวเองเป็นผู้สื่อข่าวที่ดีนั้น จะให้ผมเลิกคลางแคลงใจคงไม่ได้ เพราะหลายๆครั้งที่คุณสมจิตต์ทำหน้าที่สื่อสารมวลชน ผมมีความรู้สึกถึงการเลือกข้างอย่างชัดเจน ไม่มีการซ่อนเร้น แสดงถึงความเกลียดชังฝ่ายหนึ่ง และศรัทธาอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ดังนั้นการนำเสนอข่าวโดยมีอคติเป็นตัวนำ อย่างนี้จะให้มีความเป็นกลาง จะให้สาธารณชนเชื่อถือในความโปร่งใส และความจริงในข่าวสารได้อย่างไรกัน จริงไหมครับคุณสมจิตต์
เอาแค่เกริ่นนำในวรรคแรกก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่า คุณสมจิตต์มีทัศนะคติกับคนเสื้อแดงเป็นเช่นไร เพราะคุณสมจิตต์ใช้คำว่า ความต่ำของระดับจิตใจ ไปจนถึงคนระดับรัฐมนตรี มีระดับสมองที่อยู่ในระดับเดียวกัน นั่นคือความพยายามยกตนข่มท่าน ทั้งๆที่คุณสมจิตต์เป็นเพียงนักข่าวธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่ก็ยังคงคิดว่า คนระดับรัฐมนตรีนั้นมีระดับมันสมองน้อยกว่าคุณสมจิตต์ รวมทั้งคนเสื้อแดงทั้งหลาย นั่นแสดงให้เห็นว่า คุณสมจิตต์เชื่อเสมอมาว่า ตัวเองนั้นมีมันสมองเหนือกว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศ คิดอย่างนั้นจริงๆหรือครับคุณสมจิตต์ คุณสมจิตต์ครับ มีอีกหลายครั้งที่คุณสมจิตต์มักจะพูดถึงคนที่นิยมคุณทักษิณ ศรัทธาคุณทักษิณ จะกลายเป็นคี่ข้าของคุณทักษิณทันที โดยที่คุณสมจิตต์ไม่เคยเหลียวกลับมามองถึงพฤติกรรมของตัวเอง ที่ฝักใฝ่ประชาธิปัตย์อย่างไม่มีเหตุผล นิยมคุณอภิสิทธิ์จนเกินงาม อย่างนี้จะให้ผมจัดคุณสมจิตต์อยู่ในประเภทไหนดีครับ คี่ข้าที่ดีหรือทาสที่ปล่อยไม่ไปกันดีครับ
คุณสมจิตต์คงไม่รู้สึกถึงความโหดร้ายสินะ
เพราะเชื่อด้วยใจอคติว่ามันเป็นเรื่องสมควร จริงไหมครับ คุณสมจิตต์ครับ แต่ถ้าพูดถึงการ
“แยกแยะ”คนดีคนชั่วทางการเมือง ยิ่งต้องไม่สุดโต่งจนเกินไป ยิ่งมีหน้าที่เป็นคนนำเสนอข่าวสารยิ่งต้องแม่นยำในข้อมูล เพราะทางการเมืองนั้น มันไม่มี
“ดีทั้งกลุ่ม”และ
“เลวทั้งพรรค”หรอกนะครับ มันไม่มี
“ซื่อสัตย์ดังผ้าขาว”
และ
“โกงอย่างบูรณาการ”หรอกนะครับ มันไม่มี
“ป้องชาติ”
และ
“ขายชาติ”
หรอกนะครับ มันมีแต่
“ดีชั่วคละเคล้ากัน”ทั้งนั้นแหละครับ
ดังนั้นการเป็นผู้สื่อข่าวที่ดี
จึงควรเลือกประชาชนมากกว่าที่จะตกเป็นทาสของนักการเมือง มิฉะนั้นก็จะกลายเป็นกระบอกเสียงของพรรคที่เรานิยมไป อย่างนั้นแล้วยังจะเรียกว่า สื่อสารมวลชนได้อย่างไรกันครับคุณสมจิตต์ แต่ถ้าให้
“แยกแยะ”
ระหว่าง ความเป็น
“นักข่าว”
กับ ความเป็น
“พลเมือง”คนหนึ่งนั้น มันก็แยกแยะค่อนข้างลำบากนะครับคุณสมจิตต์ แม้รัฐธรรมนูญกำหนดให้ทุกคนมิสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกเท่ากันก็จริงอยู่ แต่ในหลายอาชีพมันก็ต้องดูที่ความเหมาะสมด้วยนะครับ ไม่ใช่แค่ถอดหัวโขนออก ก็จะกลายเป็นพลเมืองที่ต้องการสิทธิเหมือนคนอื่น ในขณะที่ใส่หัวโขนกลับมีสิทธิเหนือพลเมืองคนอื่น อย่างนี้มันเป็นการพูดเอาแต่ได้นี่ครับ ไม่ใช่เป็นนักข่าว แต่ไปแสดงจุดยืนรังเกียจอีกฝ่ายอย่างชัดเจน แล้วบอกว่าเป็นการทำหน้าที่
“พลเมือง”
ไม่ใช่เป็น กกต.
แต่ไปแสดงจุดยืนรังเกียจอีกฝ่ายอย่างชัดเจน แล้วบอกว่าเป็นการทำหน้าที่
“พลเมือง”
ไม่ใช่เป็น ปปช.
แต่ไปแสดงจุดยืนรังเกียจอีกฝ่ายอย่างชัดเจน แล้วบอกว่าเป็นการทำหน้าที่
“พลเมือง”
ไม่ใช่เป็น ตลก.
แต่ไปแสดงจุดยืนรังเกียจอีกฝ่ายอย่างชัดเจน แล้วบอกว่าเป็นการทำหน้าที่
“พลเมือง”
คุณสมจิตต์ครับ การทำหน้าที่
“พลเมืองที่ดี”นั้น
มันมีวิธีการมากมายที่จะทำนะครับ อย่างการทำหน้าที่นักข่าวที่ดี ก็เป็นการทำหน้าที่
“พลเมือง”ที่ดีแล้วครับ แต่เพราะสังคมไทยยังแยกแยะไม่ออก ระหว่าง
“หัวโขน”ที่ใส่
กับ
“หน้าที่”
ตรงนี้ต่างหากครับที่ทำให้สังคมต้องแตกแยกจนทุกวันนี้ เข้าใจไหมครับคุณสมจิตต์ ดังนั้นคุณสมจิตต์จึงไม่สมควรพูดถึงการกักขังเสรีภาพของการเป็นพลเมือง โดยพยายามเอาคำว่า
“สื่อมวลชน”มาเป็นกรงครอบ ในขณะที่คุณสมจิตต์กับพวกกำลังพยายามที่จะกักขัง
“อำนาจประชาชน”โดยเอา
“ทักษิณ”มาเป็นกรงครอบเลยนะครับมันไม่งาม
ส่วนที่คุณสมจิตต์อ้างถึงการไปร่วมชุมนุมและการตั้งคำถามในฐานะสื่อฯนั้น ไม่มีส่วนใดที่ผิดต่อจรรยาวิชาชีพนั้น มันยังไม่พอครับคุณสมจิตต์ มันยังต้องมี จริยธรรมในการสื่อข่าวและเขียนข่าวด้วย จะต้องมีจริยธรรมในการแสดงข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่าย โดยปราศจากอคติและความรู้สึกส่วนตัว คุณสมจิตต์มีไหมครับในส่วนนี้ จะต้องมีจริยธรรมในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะการเลือกข้างของคุณสมจิตต์ ทำให้ต้องการขับไล่อีกฝ่าย เพื่อให้ฝ่ายของตัวเองได้ก้าวขึ้นมาครองอำนาจแทน นั่นคือเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อหวังผลในสิทธิพิเศษอะไรหรือเปล่า อันนี้ผมแค่สงสัยครับ ไม่กล้าด่วนสรุป
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า คุณสมจิตต์นั้นไม่ใช่
“สื่อสารของมวลชน”แต่เป็นแค่
“สื่อสารของประชาธิปัตย์”เท่านั้นเองครับคุณสมจิตต์ ผมเข้าใจเช่นนั้นจริงๆครับ
http://forum.banrasdr.com/showthread.php?tid=27176http://forum.banrasdr.com/showthread.php?tid=27176
1 comment:
เป็นการย่ำยีอาชีพสื่ออย่างน่าละอายที่สุด เด็กนิเทศน์ เป็นงง จบมาจะมีใครเป็นไอดอล เนี๊ยะ
Post a Comment