2013-09-07

เบรก"ไฮสปีดเทรน" ลงทุนการศึกษาดีกว่า






ทวี มีเงิ
"ลีกวนยิว" เคยกล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติต้องสร้างคนให้เก่ง" หากคนมีการศึกษา ประเทศก็จะพัฒนาได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ระบบการศึกษา ระบบเศรษฐกิจของเขายืนอยู่แถวหน้าของโลกเพราะคนมีคุณภาพ 



ตรงข้ามกับไทยที่นับวันคุณภาพการศึกษายิ่งต่ำ ล่าสุดสดๆ ร้อนๆ "เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม" จัดอันดับการศึกษาไทยอยู่อันดับ 8 ของอาเซียน แพ้เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งไม่น่าตกใจมาตรฐานการศึกษาเวียดนามดีกว่าไทยตั้งนานแล้ว เคยฟังจากผู้ใหญ่เล่าให้ฟังว่าเคยมีการเอาเด็กหัวกะทิของไทยกับกัมพูชาทดสอบโทเฟล ผลเด็กไทยแพ้ลุ่ย 



หลายคนบอกว่าการศึกษาไทยตกต่ำเพราะเปลี่ยนรัฐมนตรีบ่อย นโยบายไม่ต่อเนื่อง เหนือสิ่งอื่นใดเราไม่เคยได้คนรู้เรื่องการศึกษาจริงๆ
ไม่ว่าประเทศไหนถือว่า "ครูคือแม่พิมพ์" แม่พิมพ์ดีผลิตผลก็ย่อมดี แต่บ้านเราคนที่เลือกอาชีพนี้ส่วนใหญ่คือคนที่ไปสอบเข้าที่ไหนไม่ได้ ไม่มีทางไป ต่างจากเวียดนามเคยมีการสำรวจเด็ก "หัวกะทิ" อยากทำอาชีพอะไร อันดับ 1 อยากเป็น "ครู" เพราะมีเกียรติในสังคม รายได้พออยู่ได้ 



หากเราจะรื้อระบบการศึกษาก็ต้องหาวิธีทำอย่างไรให้คน "คนเก่งคนดี" มาเป็นครู มีทั้งเกียรติ ศักดิ์ศรี และรายได้ 


บ้านเรา คนจบปริญญาตรีปีละหลายแสนคน แต่ไม่ตรงตามที่ตลาดต้องการ แถมจบมาไม่มีคุณภาพ เด็กใหม่ยังทำงาน ไม่เป็น บริษัทต้องเสียเวลาฝึกอบรม เสียทั้งเวลาค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้น มหาวิทยาลัยก็เปิดกันมั่วแต่ไม่มีคุณภาพ กลายเป็น "ธุรกิจการศึกษา" ประเภทจ่ายครบจบแน่ สังคมเราจึงเป็นสังคม "อุดมปริญญา" ไม่ใช่สังคม "อุดมปัญญา" มีแต่ปริมาณ แต่ไม่มีคุณภาพ



รัฐมนตรีจาตุรนต์ ฉายแสง น่าจะหารือกับ "ผู้ประกอบการ" ว่าต้องการคนแบบไหนแล้วผลิตป้อนกับความต้องการของตลาด ก็เหมือนสินค้าจะผลิตอะไรออกมาก็ต้องดูว่าตลาดต้องการอะไร
เชื่อหรือไม่ในการจัดอันดับขีดความสามารถการแข่งขันของไทย การศึกษาอยู่อันดับท้ายสุด แย่กว่าพลังงานและระบบสาธารณูปโภค แต่ไม่มีรัฐบาลไหนสนใจเพราะใช้เวลานาน แตะต้องยาก ไม่เหมือนรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ทั้งที่วันนี้เรื่อง การศึกษาเร่งด่วนกว่ารถไฟฟ้าความเร็วสูง 

หากเลิกรถไฟฟ้าความเร็วสูงเอางบฯ 7 แสนล้านบาท มาลงทุนสร้างคน ไม่ใช่แค่ซื้อแท็บเล็ต จะเป็นคุณูปการ กับประเทศอย่างยิ่ง 

No comments: