🌹🌹การตื่นขึ้น /The Awakening

เรามาไกลตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึงบัดนี้ ฉันมีส่วนแบ่งทั้งความสุขและความเจ็บปวด บางครั้งพายุแห่งชีวิตทำให้ฉันล้มลงและร้องไห้ แต่ฉันก็ฝ่าลม และลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แม้ในคืนที่มืดมนที่สุด วิญญาณของฉันก็ไม่เคยตาย

*********************************

The Awakening / การตื่นขึ้น     

      

ถึงเวลาในชีวิตของคุณเมื่อคุณได้รับมันในที่สุด...เมื่อท่ามกลางความกลัวและความวิกลจริตทั้งหมดของคุณ คุณหยุดนิ่งอยู่กับที่และที่ไหนสักแห่ง เสียงนั้น

ในหัวของคุณร้องออกมา - พอแล้ว!

พอกันที สำหรับการต่อสู้และร้องไห้หรือดิ้นรนที่จะอดทน และเหมือนกับเด็กที่สงบลงหลังจากอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างไร้เหตุผล เสียงสะอื้นของคุณเริ่มลดลง คุณตัวสั่นกระตุก ครั้งหรือสองครั้ง คุณกระพริบตาไล่น้ำตา และไหลผ่านขนตาที่เปียกชื้น คุณเริ่มมองโลกด้วยดวงตาใหม่

 

This is your awakening.../นี่คือการตื่นขึ้นของคุณ...

คุณตระหนักดีว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องหยุดหวังและรอคอยบางสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลง หรือความสุข ความปลอดภัย และความมั่นคงที่จะควบม้าไปในขอบฟ้าถัดไป คุณตกลงกับความจริงที่ว่าเขาไม่ใช่เจ้าชายชาร์มมิ่ง และคุณไม่ใช่ซินเดอเรลล่า และในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีการจบของเทพนิยายเสมอไป (หรือจุดเริ่มต้นของเรื่องนั้น) และการรับประกันใดๆ ของ "ความสุขชั่วนิรันดร์" ต้องเริ่มต้นที่ตัวคุณ และในกระบวนการ ความรู้สึกสงบย่อมเกิดจากการยอมรับ

คุณตื่นขึ้นจากความจริงที่ว่าคุณไม่สมบูรณ์แบบและไม่ใช่ทุกคนที่จะรัก เห็นคุณค่า หรือเห็นชอบในตัวคุณหรือสิ่งที่คุณเป็นเสมอไป ... และนั่นก็เป็นเรื่องปกติ (พวกเขามีสิทธิ์ที่จะมีมุมมองและความคิดเห็นของตนเอง) และคุณได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการรักและปกป้องตัวเอง และในกระบวนการนี้ ความรู้สึกมั่นใจที่เพิ่งค้นพบนั้นเกิดจากการเห็นชอบในตนเอง

คุณหยุดบ่นและตำหนิคนอื่นสำหรับสิ่งที่พวกเขาทำกับคุณ (หรือไม่ทำเพื่อคุณ) และคุณเรียนรู้ว่าสิ่งเดียวที่คุณสามารถไว้วางใจได้จริงๆ คือสิ่งที่ไม่คาดคิด คุณเรียนรู้ว่าผู้คนไม่ได้พูดอย่างที่คิด และ คิดอย่างที่เขาพูด!! ไม่ใช่ทุกคนที่จะอยู่เคียงข้างคุณเสมอไป และมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับคุณเสมอไป ดังนั้นคุณจึงเรียนรู้ที่จะยืนหยัดได้ด้วยตัวเองและดูแลตัวเอง และในกระบวนการนี้ ความรู้สึกปลอดภัยและการมั่นคงเกิดจากการพึ่งพาตนเอง

คุณหยุดตัดสินและชี้นิ้วใส่คนอื่น และคุณเริ่มยอมรับผู้คนตามที่เป็นอยู่ และมองข้ามข้อบกพร่องและความอ่อนแอของมนุษย์ และในกระบวนการนี้ ความรู้สึกสงบและความพึงพอใจเกิดจากการให้อภัย

คุณตระหนักดีว่าวิธีที่คุณมองตัวเองและโลกรอบตัวส่วนใหญ่เป็นผลมาจากข้อความและความคิดเห็นทั้งหมดที่ฝังแน่นอยู่ในจิตใจของคุณ คุณเริ่มกรองขยะทั้งหมดที่คุณได้รับมาเกี่ยวกับวิธีที่คุณควรประพฤติตัว รูปร่างหน้าตา และน้ำหนักตัวของคุณ สิ่งที่คุณควรสวมใส่ สถานที่ที่คุณควรซื้อของ และสิ่งที่คุณควรขับรถ วิธีและสถานที่ที่คุณควร มีชีวิตอยู่และสิ่งที่คุณควรทำเพื่อหาเลี้ยงชีพ คุณควรแต่งงานกับใคร และสิ่งที่คุณควรคาดหวังจากการแต่งงาน ความสำคัญของการมีและเลี้ยงดูลูก หรือสิ่งที่คุณเป็นหนี้พ่อแม่ คุณเรียนรู้ที่จะเปิดใจรับโลกใหม่และมุมมองที่แตกต่าง คุณเริ่มประเมินใหม่และกำหนดนิยามใหม่ว่าคุณคือใครและจุดยืนที่แท้จริงของคุณคืออะไร

คุณเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างความต้องการและความต้องการ และคุณเริ่มละทิ้งหลักคำสอนและค่านิยมที่คุณมีมากเกินไป หรือไม่ควรซื้อไว้ ตั้งแต่แรก และในกระบวนการนี้ คุณเรียนรู้ที่จะทำตามสัญชาตญาณของคุณ

คุณเรียนรู้ว่าแท้จริงแล้วคือการให้ที่เราได้รับ และมีพลังและรัศมีภาพในการสร้างและมีส่วนร่วม และคุณหยุดดำเนินชีวิตเพียงในฐานะ "ผู้บริโภค" ที่มองหาแนวทางแก้ไขครั้งต่อไปของคุณ

คุณเรียนรู้ว่าหลักธรรมเช่นความซื่อสัตย์และความซื่อสัตย์ไม่ใช่อุดมคติที่ล้าสมัยของยุคอดีต แต่เป็นปูนขาวที่ยึดรากฐานที่คุณต้องสร้างชีวิตไว้ด้วยกัน

คุณเรียนรู้ว่าคุณไม่ได้รู้ทุกสิ่ง ไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะช่วยโลกและคุณไม่สามารถสอนหมูให้ร้องเพลงได้ คุณเรียนรู้ที่จะแยกแยะระหว่างความรู้สึกผิดและความรับผิดชอบ และความสำคัญของการกำหนดขอบเขตและการเรียนรู้ที่จะปฏิเสธ คุณเรียนรู้ว่าไม้กางเขนเดียวที่ต้องแบกคือไม้กางเขนที่คุณเลือกแบกและผู้พลีชีพถูกเผาบนเสา

 

แล้วคุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรัก ความรักโรแมนติกและความรักในครอบครัว รักอย่างไร ให้รักเท่าไร เมื่อใดควรหยุดให้ และเมื่อใดควรเดินจากไป คุณเรียนรู้ที่จะไม่แสดงความต้องการหรือความรู้สึกของคุณไปที่ความสัมพันธ์ คุณเรียนรู้ว่าคุณจะไม่สวยมากขึ้น ฉลาดขึ้น น่ารักมากขึ้น หรือสำคัญไปกว่านี้เพราะผู้ชายที่อยู่บนแขนของคุณหรือเด็กที่ใช้ชื่อของคุณ

คุณเรียนรู้ที่จะมองความสัมพันธ์ตามความเป็นจริงและไม่ใช่อย่างที่คุณคาดหวัง คุณหยุดพยายามควบคุมผู้คน สถานการณ์ และผลลัพธ์

คุณเรียนรู้ว่าเช่นเดียวกับที่ผู้คนเติบโตและเปลี่ยนแปลง ความรักก็เป็นเช่นนั้น และคุณเรียนรู้ว่าคุณไม่มีสิทธิ์เรียกร้องความรักตามเงื่อนไขของคุณ เพียงเพื่อให้คุณมีความสุข

คุณเรียนรู้ว่าการอยู่คนเดียวไม่ได้หมายความว่าจะเหงา คุณมองในกระจกและตกลงกับความจริงที่ว่า คุณจะไม่มีวันมีขนาด 5 หรือ 10 ที่สมบูรณ์แบบ และคุณหยุดพยายามที่จะแข่งขันกับภาพในหัวของคุณและทนทุกข์ทรมานกับวิธีการ "ซ้อน"

คุณยังหยุดทำงานหนักโดยละความรู้สึกของตัวเอง จัดการเรื่องต่างๆ ให้ราบรื่น และเพิกเฉยต่อความต้องการของคุณ คุณเรียนรู้ว่าความรู้สึกของการได้รับสิทธิ์นั้นเป็นเรื่องปกติและเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะต้องการสิ่งของและขอสิ่งที่คุณต้องการ และบางครั้งก็จำเป็นต้องเรียกร้อง

คุณตระหนักว่าคุณสมควรได้รับการปฏิบัติด้วยความรัก ความเมตตา ความอ่อนไหว และความเคารพ และคุณจะไม่ยอมจ่ายให้น้อยลง คุณอนุญาตให้มีเพียงมือของคนรักที่รักคุณ เพื่อเชิดชูคุณด้วยสัมผัสของเขา และในกระบวนการนี้ คุณจะเข้าใจความหมายของการเคารพตนเองภายใน

และคุณเรียนรู้ว่าร่างกายของคุณคือวิหารของคุณจริงๆ และคุณเริ่มที่จะดูแลมันและปฏิบัติต่อมันด้วยความเคารพ คุณเริ่มรับประทานอาหารที่สมดุล ดื่มน้ำมากขึ้น และใช้เวลาออกกำลังกายมากขึ้น คุณเรียนรู้ว่าความเหนื่อยล้าทำให้จิตวิญญาณลดน้อยลง และอาจสร้างความสงสัยและความกลัวได้ เพื่อให้คุณมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น เช่นเดียวกับอาหารเติมพลังให้กับร่างกาย เสียงหัวเราะก็เติมพลังให้กับจิตวิญญาณของเราฉันใด เพื่อให้คุณมีเวลาหัวเราะและเล่นมากขึ้น

คุณเรียนรู้ว่าส่วนใหญ่ในชีวิต คุณจะได้รับสิ่งที่คุณเชื่อว่าคุณสมควรได้รับ และชีวิตส่วนใหญ่นั้นเป็นคำทำนายที่เติมเต็มตัวเองอย่างแท้จริง

คุณเรียนรู้ว่าสิ่งใดก็ตามที่ควรค่าแก่การบรรลุนั้นคุ้มค่าที่จะลงมือทำ และการปรารถนาให้บางสิ่งเกิดขึ้นนั้นแตกต่างจากการพยายามทำให้มันเกิดขึ้น

ที่สำคัญกว่านั้น คุณเรียนรู้ว่าเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ คุณต้องมีทิศทาง วินัย และความอุตสาหะ คุณยังได้เรียนรู้ว่าไม่มีใครสามารถทำได้โดยลำพัง และการเสี่ยงขอความช่วยเหลือก็เป็นเรื่องปกติ

คุณเรียนรู้ว่าสิ่งเดียวที่คุณต้องกลัวอย่างแท้จริงคือบารอนโจรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล กลัวตัวเอง. คุณเรียนรู้ที่จะก้าวเข้าสู่และผ่านความกลัวของคุณ เพราะคุณรู้ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น คุณสามารถรับมือกับมันได้ และยอมแพ้ต่อความกลัว คือการสละสิทธิ์ในการใช้ชีวิตตามเงื่อนไขของคุณ

คุณเรียนรู้ที่จะต่อสู้เพื่อชีวิตของคุณและไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายภายใต้เมฆแห่งความหายนะที่จะเกิดขึ้น คุณเรียนรู้ว่าชีวิตไม่ได้ยุติธรรมเสมอไป คุณไม่ได้รับสิ่งที่คุณคิดว่าสมควรได้รับเสมอไป และบางครั้งสิ่งเลวร้ายก็เกิดขึ้นกับคนดีที่ไม่สงสัย ในโอกาสเหล่านี้ คุณเรียนรู้ที่จะไม่ปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้เป็นส่วนตัว คุณเรียนรู้ว่าพระเจ้าไม่ได้ลงโทษคุณหรือไม่ตอบคำอธิษฐานของคุณ มันเป็นแค่ชีวิตที่เกิดขึ้น

คุณเรียนรู้ที่จะจัดการกับความชั่วร้ายในสภาพดั้งเดิมที่สุด อัตตา คุณเรียนรู้ว่าความรู้สึกเชิงลบ เช่น ความโกรธ ความอิจฉา และความขุ่นเคือง จะต้องเข้าใจและเปลี่ยนทิศทาง ไม่เช่นนั้นมันจะหายใจไม่ออกและเป็นพิษต่อจักรวาลที่ล้อมรอบคุณ คุณเรียนรู้ที่จะยอมรับเมื่อคุณทำผิด และสร้างสะพานแทนกำแพง

คุณเรียนรู้ที่จะขอบคุณและสบายใจกับสิ่งง่ายๆ มากมายที่เรามองข้ามไป สิ่งที่ผู้คนนับล้านบนโลกทำได้แต่ฝันถึง ตู้เย็นครบ น้ำไหลสะอาด เตียงอุ่นนุ่ม ฝักบัวน้ำอุ่นนานๆ คุณเริ่มรับผิดชอบต่อตัวเองอย่างช้าๆ และทำสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทรยศต่อตัวเองและจะไม่ยอมจ่ายน้อยกว่าความปรารถนาของหัวใจ คุณแขวนกระดิ่งลมไว้นอกหน้าต่างเพื่อฟังเสียงลม และคุณควรยิ้มต่อไป ไว้วางใจ และเปิดรับทุกความเป็นไปได้ที่ยอดเยี่ยม

ในที่สุด ด้วยความกล้าหาญในใจและมีพระเจ้าอยู่เคียงข้าง คุณยืนหยัด หายใจเข้าลึกๆ และเริ่มออกแบบชีวิตที่คุณต้องการใช้ชีวิตให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้