แนวคิดสุดล้ำค่าของ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์”
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา เชื่อว่าคนทั้งโลกคงมีโอกาสได้เห็น กระดาษโน้ตที่จดด้วยลายมือของนักฟิสิกส์ชาวเยอรมันชื่อดังระดับโลก “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ซึ่งข้อความนั้นได้เขียนบรรยายเกี่ยวกับ “ทฤษฎีแห่งความสุข” และได้มีการนำกระดาษที่มีข้อความดังกล่าวมาประมูล ณ กรุงเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอล ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีคนประมูลในราคาที่สูงถึง 1.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 52 ล้านบาท
ถึงแม้ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ก็จริง แต่เขาก็มีมุมมองในการใช้ชีวิตที่น่าสนใจอย่างมาก ทำให้อดไม่ได้ที่จะต้องย้อนกลับมาดูข้อความเหล่านั้นของเขาอีกครั้ง ซึ่งข้อความ “ทฤษฎีแห่งความสุข” นี้ เขาเขียนขณะเดินทางไปบรรยายที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงหลังจากได้รับทราบว่าตนจะได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ไม่นาน โดยเขาได้เขียนข้อความนี้เป็นภาษาเยอรมันและมอบให้พนักงานส่งเอกสารแทนเงินค่าทิป ข้อความดังกล่าวมีความหมายว่า
“A calm and humble life will bring more happiness than the pursuit of success and the constant restlessness that comes with it.”
“ชีวิตที่เรียบง่ายและเงียบสงบ จะนำความสุขมาให้ยิ่งกว่าการไล่ติดตามความสำเร็จ รวมทั้งความกังวลทั้งหลายที่มากับมันตลอดเวลาด้วย”
ที่สำคัญไม่ได้มีข้อความเพียงแค่ใบเดียวเท่านั้น เขายังเขียนข้อความลงในกระดาษอีกใบหนึ่งด้วยว่า
“Where there’s a will, there’s a way.”
“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”
และบอกกับพนักงานส่งเอกสารว่า ถ้าเขาโชคดี กระดาษทั้งสองใบนี้จะมีมูลค่าสูงยิ่งกว่าเงินค่าทิปในอนาคต และคำกล่าวนั้นก็กลายเป็นจริง เพราะกระดาษข้อความของเขามีมูลค่าอย่างมาก เมื่อหลานชายของพนักงานส่งเอกสารคนดังกล่าวนำกระดาษทั้งสองใบออกประมูล สามารถทำเงินได้มากกว่าที่คาดไว้ ซึ่งกระดาษจดข้อความใบเล็กมีผู้ประมูลไปในราคา 240,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 8 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีคำคมที่โด่งดังไปทั่วโลกของเขาอีกมากมาย เช่น เราไม่อาจแก้ปัญหาได้ด้วยวิธีคิดเดียวกับที่เราใช้เมื่อสร้างมันขึ้นมา, ตัวบ่งชี้ถึงสติปัญญาที่แท้จริงไม่ใช่ความรู้ แต่เป็นจินตนาการ, เรายังรู้ไม่ถึง 1 ในพันส่วนของ 1% ในสิ่งที่ธรรมชาติได้เปิดเผยแก่เรา, เวลาที่คุณกำลังจีบสาวสวย 1 ชั่วโมงเหมือนผ่านไปแค่วินาทีเดียว แต่เวลาคุณนั่งอยู่บนเตาไฟร้อนแดง 1 วินาทีก็เป็นเหมือน 1 ชั่วโมง นั่นคือสัมพัทธภาพ
No comments:
Post a Comment