นอกจากความเป็นไทยล้นเอ่อ ความเป็นพุทธก็ล้นเอ่อ

นอกจากความเป็นไทยล้นเอ่อ ความเป็นพุทธก็ล้นเอ่อ เรื่องชาไข่มุกเอารูปเศียรพระพุทธเจ้ามาใช้ที่ฟิลิปปินส์ ชาวพุทธไทยแท้ๆๆๆๆๆ ทนไม่ไหว เห็นบอกจะเอาเรื่องเจ้าของร้านให้ถึงที่สุด โอ้ย ไม่ทราบว่าเราเป็นเจ้าของพุทธศาสนาตั้งแต่เมื่อไหร่ ขึ้นทะเบียนจดลิขสิทธ์หรือยัง? นี่ไม่นับว่าออริจิ้นของพุทธศาสนาเกิดที่อินเดียและสิทธัตถะคือคนอินเดีย แต่กลายเป็นว่าตอนนี้ ไทยเป็นเจ้าของศาสนาพุทธแต่เพียงผู้เดียวไปแล้ว มันเคยเกิดเรื่องทำนองนี้ตอนผมอยู่กระทรวงต่างประเทศ มีร้านอาหารในปารีสเอารูปปั้นพระพุทธเจ้ามาประดิษฐ์ รัฐบาลไทยไม่ยอมเจ้าค่ะ ส่งเจ้าหน้าที่สถานทูตไปตำหนิ หรือถึงขนาดให้เอารูปปั้นออก อีเจ้าของร้านฝรั่งเศสงง และสะบัดบ๊อบใส่
....ที่พูดนี่ไม่ใช่ไม่เห็นใจชาวพุทธ แต่เรื่องนี้ต้องเข้าใจว่า เราทำได้แต่พอประมาณ เพราะมันไม่ใช่แบรนด์ที่เราเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว เอาละ ในฐานะชาวพุทธ อาจจะไม่สบายใจที่ใครมาลบหลู่ศาสนา การแสดงความกังวลใจก็น่าจะเข้าใจได้ แต่คงไปไกลจนถึงไปเอาเรื่องร้านชาไข่มุกก็เยอะและเกินขอบเขตอธิปไตยทางศาสนา ที่สำคัญ พุทธพาณิชย์เองก็มีในไทย แต่มาในรูปอื่น ของฟิลิปปินส์อาจจะโจ่งแจ้งไปเพราะเอาสัญลักษณ์โดยตรงมาหากิน แต่พระเซเลปของเราก็แสบพอกัน ขายแพ็คเกจนั่งสมาธิ อบรมขันติ นี่ไม่นับเรื่องการเช่าพระเครื่องที่ไม่ใช่แค่ขายเศียรพระ แต่แม่งขายทั้งองค์พระพุทธเจ้าเลยค่ะ
...สรุปว่า นี่คือเป็นอะไรที่ไทยๆ ฉิบหาย เป็นต้องเป็นให้สุด ไม่ว่าโลกจะหมุนไปไหน โลกาภิวัฒน์อย่างไร ไทยแม่งคือไทย ศูนย์กลางจักรวาล ครอบครองทุกสิ่ง แม้กระทั่งสิ่งที่ไม่ใช่ของเรา
CR: Pavin Chachavalpongpun