นายกในดวงใจ

2018-08-09

สอนลูกวัยรุ่นให้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

สอนลูกวัยรุ่นให้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย
 ปัญหา

เมื่อคุณดูข่าวแล้วเห็นว่าอินเทอร์เน็ตถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ การล่อลวงทางเพศ และการขโมยข้อมูลส่วนตัว คุณคงรู้สึกเป็นห่วงลูกวัยรุ่นของคุณที่ชอบออนไลน์บ่อย ๆ และดูเหมือนลูกก็ไม่รู้ว่าตัวเองอาจตกเป็นเหยื่อได้
คุณสามารถ ช่วยลูกวัยรุ่นของคุณให้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยได้ แต่ก่อนอื่นขอให้คิดถึงบางอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับโลกออนไลน์

สิ่งที่คุณควรรู้

วัยรุ่นออนไลน์ผ่านมือถือหรือแท็บเล็ตได้ การตั้งคอมพิวเตอร์ไว้ตรงจุดที่ทุกคนในบ้านมองเห็นได้นับว่าเป็นกฎที่ดี แต่มือถือและแท็บเล็ตก็เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ลูกของคุณจึงออนไลน์ได้อย่างง่ายดายโดยที่คุณไม่รู้เลย ว่าเขากำลังดูอะไร หรือคุยกับใคร




พ่อยื่นกุญแจรถให้ลูกชาย




ที่จริง อุบัติเหตุที่เกิดจากการขับรถไม่ได้ทำให้การขับรถกลายเป็นเรื่องผิด หลักการเดียวกันนี้ก็ใช้ได้กับอินเทอร์เน็ตด้วย การใช้อินเทอร์เน็ตไม่ผิด แต่ลูกวัยรุ่นของคุณจำเป็นต้องรู้วิธี “ใช้” อย่างปลอดภัย
วัยรุ่นบางคนใช้เวลาออนไลน์มากเกินไป สาววัย 19 ยอมรับว่า “ตอนเปิดคอมพิวเตอร์ฉันกะว่าจะเช็คอีเมลสัก 5 นาทีเท่านั้น แต่ไป ๆ มา ๆ ฉันกลับนั่งดูวีดีโอเป็นชั่วโมง ๆ ฉันต้องควบคุมตัวเองให้มากกว่านี้”
วัยรุ่นอาจเปิดเผยเรื่องส่วนตัวมากเกินไปบนโลกออนไลน์ คนที่มีเจตนาไม่ดีอาจปะติดปะต่อข้อมูลที่ได้จากคอมเมนต์ (ความคิดเห็น) และรูปภาพของลูก เช่น ข้อมูลว่าเขาอยู่ที่ไหน ไปโรงเรียนอะไร และตอนไหนที่ไม่มีใครอยู่บ้าน

วัยรุ่นบางคนไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาโพสต์จะก่อผลอะไรตามมา รูปภาพหรือข้อความที่โพสต์ (ส่ง) บนอินเทอร์เน็ตก็จะอยู่อย่างนั้นไปตลอด สิ่งที่น่าอายซึ่งบางคนคิดว่าเขาลบออกไปแล้วอาจมีคนเข้าไปอ่านหรือพบเจอในภายหลังได้ เช่น บางครั้งนายจ้างอาจดูประวัติของผู้สมัครงานโดยใช้ข้อมูลจากโลกออนไลน์ด้วย
แม้ว่ามีหลายอย่างที่ดูน่าเป็นห่วง แต่ขอให้จำไว้ว่า อินเทอร์เน็ตไม่ใช่ศัตรูของคุณ แทนที่จะเป็นอย่างนั้น การใช้อย่างไม่ฉลาด ต่างหากที่จะทำให้เกิดปัญหา

 สิ่งที่คุณทำได้

สอนลูกให้รู้จักจัดลำดับความสำคัญและแบ่งเวลาให้ถูก ถ้าเราอยากให้ลูกโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ ต้องสอนให้เขารู้ว่าควรทำสิ่งไหนก่อนหลัง การพูดคุยกันในครอบครัว การบ้าน และงานบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการเอาแต่เล่นอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยเปื่อย ถ้าลูกใช้เวลาออนไลน์มากจนน่าเป็นห่วง คุณต้องจำกัดเวลาหรือถ้าจำเป็นอาจถึงกับต้องใช้นาฬิกาจับเวลากันเลยทีเดียว—คำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล: ฟิลิปปอย 1:10
สอนลูกให้คิดก่อนโพสต์ ช่วยลูกวัยรุ่นให้คิดว่า คอมเมนต์ที่ฉันกำลังจะโพสต์มันจะทำให้คนอื่นเสียใจหรือเจ็บใจไหม? ชื่อเสียงของฉันจะเสียหายไหมถ้าโพสต์รูปนี้ไป? ฉันจะรู้สึกอับอายไหมถ้าพ่อแม่หรือผู้ใหญ่คนอื่นมาเห็นรูปหรือคอมเมนต์นี้เข้า? คนอื่นจะคิดว่าฉันเป็นคนอย่างไรถ้าเขาเห็นรูปนี้? ฉันจะคิดอย่างไรถ้าเห็นคนอื่นโพสต์รูปหรือคอมเมนต์แบบนี้?—คำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล: สุภาษิต 10:23
สอนลูกให้รู้จักคิดว่าอะไรถูกอะไรผิด ไม่ใช่เอาแต่ตั้งกฎ คุณไม่มีทางจะตามดูลูกได้ทุกฝีก้าวว่าเขาทำอะไรบ้างในแต่ละวัน ดังนั้น เป้าหมายของพ่อแม่คือไม่ใช่คอยควบคุมลูก แต่ช่วยลูกให้ “ฝึกใช้วิจารณญาณเพื่อจะแยกออกว่าอะไรถูกอะไรผิด” (ฮีบรู 5:14) ดังนั้น แทนที่จะเน้นแต่กฎเกณฑ์และการลงโทษเป็นหลัก คุณน่าจะฝึกลูกให้รู้จักคิดอย่างมีเหตุผลว่าเขาอยากมีชื่อเสียงแบบไหน? อยากให้คนอื่นรู้จักเขาว่าเป็นคนแบบไหน? เป้าหมายของคุณคือ ช่วยลูกวัยรุ่นให้รู้จักตัดสินใจอย่างฉลาดสุขุมเสมอไม่ว่าตอนนั้นคุณจะอยู่ด้วยหรือไม่—คำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล: สุภาษิต 3:21
“ถึงวัยรุ่นจะรู้เรื่องเทคโนโลยีมากกว่า แต่พ่อแม่ก็รู้เรื่องชีวิตมากกว่า”
การท่องโลกอินเทอร์เน็ตก็เหมือนกับการขับรถ ไม่ใช่แค่รู้วิธีขับ แต่ต้องรู้จักใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจด้วย คำแนะนำของพ่อแม่จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังที่เพอร์รี อัฟแท็บ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของอินเทอร์เน็ตกล่าวไว้ว่า “ถึงวัยรุ่นจะรู้เรื่องเทคโนโลยีมากกว่า แต่พ่อแม่ก็รู้เรื่องชีวิตมากกว่า”

No comments:

Post a Comment

เชิญแชร์ความคิดเห็นที่นี่ค่ะ